95 คนลาวติดด่านท่าลี่ หลังลาวปิดประเทศ

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าว จ.เลย รายงานว่า ที่ด่านพรมแดนนากระเซ็ง ต.อาฮี อ.ท่าลี่ มีประชาชนชาว สปป.ลาว ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งเพชรบูรณ์ พิษณุโลก ขอนแก่น หนองบัวลำภู ได้รับผลกระทบจากรัฐบาลไทยมีมาตรการปิดร้านอาหาร สถานบริการ และประกอบการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ติดค้างไม่สามารถข้ามแม่น้ำเหืองไปฝั่ง สปป.ลาวได้ เป็นวันที่ 2

เนื่องจากเจ้าแขวงไชยะบุรี ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พะเยา น่าน และอุตรถิตถ์ แจ้งปิดด่านพรมแดนที่ติดต่อกับประเทศไทย ทั้งหมด 5 แห่ง เริ่มมีผลอย่างเร่งด่วนในวันที่ 3 เม.ย. โดยไม่มีการอนุโลมให้คนลาวข้ามไปได้เหมือนช่วงก่อนหน้านี้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

โดยหนังสือด่วนฉบับดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากสภาพปัจจุบันที่การระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COMD-19) ในทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทั่วโลก และประเทศใกล้เคียง กลายเป็นการระบาดใหญ่ เพื่อเป็นการป้องกัน และสกัดกั้น พร้อมทั้งเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการติดเชื้อ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แขวงไชยะบุรี

ขอแจ้งมายังท่านทราบเกี่ยวกับการปิดการเดินทางของบุคคลเข้า-ออก ด่านสากล 4 แห่ง (ด่านสากลสะพานมิตรภาพน้ำเหือง เมืองแก่นท้าว, ด่านพู เมืองปากลาย, ด่านน้ำเงิน เมืองเงิน และด่านปางนอน เมืองคอน) ของแขวงไชยะบุรีเป็นการชั่วคราว เริ่มแต่วันที่ 3 เม.ย. เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดจะกลับคือสู่สภาพปกติ เพื่อยุติการเข้า-ออกของบุคคล รวมทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ออก หรือเข้ามา

ส่วนพาหนะขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการด้านการขนส่งที่ได้รับอนุญาตดำเนินธุรกิจ ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบการ สามารถเข้า-ออกได้ แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและคําแนะนำของด่านสากล

โดยวันที่ 4 เม.ย. เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร และเจ้าหน้าที่ปกครองของไทย ที่ประจำด่าน มาทำการตรวจเช็คชาวลาวเบื้องต้น โดยการวัดอุณหภูมิ ในจำนวน 70 คน พบอุณหภูมิมากกว่า 37.3 องศาเซลเซียล ประมาณ 5-7 คน จึงมีการจำแนกออกจากกลุ่ม และวัดซ้ำอีกหลายครั้ง พบมีอุณหภูมิสูง 3 คน ทางสาธารณสุขอำเภอท่าลี่ จึงนำตัวไปยังโรงพยาบาลท่าลี่ เพื่อตรวจสอบวัดไข้อีกครั้ง และเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง

ต่อมานายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หลังได้รับมอบหมายจากนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เดินทางลงพื้นที่ เพื่อรับทราบและแก้ไขปัญหาที่มีคนลาวตกค้างจำนวนมาก ซึ่งได้ไปทำความเข้าใจกับกลุ่มคนลาวว่า หากอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าลี่ หรือใกล้เคียง ขอให้เดินทางกลับโดยให้ญาติพี่น้องหรือนายจ้างมารับกลับไป

แต่หากไม่สามารถเดินทางกลับไปได้ ทางอำเภอท่าลี่ จะจัดให้ไปอยู่ในสถานกักตัว ซึ่งทางอำเภอได้จัดไว้ให้เฉพาะกิจ 2 แห่งด้วยกัน คือศาลาวัดหลวงปู่ลาดทรงธรรม และศูนย์โอทอป อ.ท่าลี่ โดยทางจังหวัดได้เตรียมทีมบุคคลกรทางการแพทย์ไว้คัดกรองตรวจร่างกายทุกเช้า และจัดเตรียมข้าวกล่องให้จำนวน 3 มื้อทุกวัน

จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานที่กักตัวและชี้แจงแนวทางให้แก่ราษฎร สปป.ลาว ที่ตกค้างไม่สามารถข้ามด่านกลับประเทศได้ เนื่องจากทางการ สปป.ลาว ได้ประกาศแจ้งให้ด่านพรมแดนไทย-ลาว ให้ทำการปิดด่านเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 3-19 เม.ย. เป็นเหตุให้แรงงานลาวตกค้างที่อำเภอท่าลี่ จำนวน 95 คน (ข้อมูลขณะปิดด่านเวลา 16.30 น.)

รองผู้ว่าฯ เลย ได้ให้กำลังใจชาวลาวทุกคนที่หน้าด่าน พร้อมกับทำความเข้าใจเรื่องของพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางของคนลาวว่า หากเดินทางไป สปป.ลาว ไม่ได้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำเรื่องไปยังรัฐบาล เพื่อขยายเวลาให้กับพี่น้องชาวลาวที่อยู่ในประเทศไทย โดยต่ออายุพาสปอร์ตไปจนถึงปลายเดือน เม.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน