วันที่ 21 มิ.ย. ที่สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และชุดสืบสวนร่วมกันแถลงจับกุม นางศรีสุดา ประนมศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 14 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นแม่บ้านโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี และนายเทพประสิทธิ์ ดอกจันทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 9 ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย พร้อมของกลางอุปกรณ์เครื่องการแพทย์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องประดับ, เครื่องของใช้ภายในบ้าน, พระเครื่อง และรถจยย.2 คัน รวมทั้งหมด 34 รายการ กว่า 100 ชิ้น มูลค่าหลายแสนบาท โดยมีผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ได้มาดูของกลางของตัวเอง
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีคนร้าย ออกตระเวนก่อเหตุงัดบ้านจัดสรรในพื้นที่ อ.เมืองอุดรธานี มากกว่า 100 หลัง โดยเฉพาะในคืนวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายเข้าไปก่อเหตุงัดบ้านในหมู่บ้านหรรษา ต.บ้านเลื่อม จำนวน 4 หลัง ขณะที่คนร้ายกำลังขนทีวีสีจอแบนขนาด 32นิ้ว ออกจากบ้านเลขที่ 539/119 ก็มี รปภ. ของหมู่บ้านมาพบ ซึ่งคนร้ายได้ชักอาวุธมีดมาขู่ ทิ้งรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1กณ 5356 อุดรธานี เอาไว้ แล้วขโมยรถจยย.ยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ สีฟ้า สภาพใหม่ พึ่งซื้อมาได้ 7 วัน ของบ้านหลังดังกล่าวขี่หลบหนีไป
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ต่อมาได้มีนางศรีสุดา ประนมศรี และ นายเทพประสิทธิ์ ดอกจันทร์ ซึ่งเป็นสามีใหม่ ได้มาติดต่อ เอารถจยย.ที่ทิ้งไว้ โดยอ้างว่า สามีเมาเหล้าแล้วทิ้งจอดรถเอาไว้ แต่หลังจากตำรวจได้ทำสอบเค้นอย่างหนัก และพบว่ารถจยย.ที่ทั้ง 2 คนขี่มานั้น ได้นำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาติด และจากการตรวจสอบหมายเลขเครื่อง พบว่าเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้ายขโมยไปในคืนวันเกิดเหตุ เมื่อทั้ง 2 คนจนมุม นายเทพประสิทธิ์ ทำทีเป็นลมชักหมดสติ และจากการขยายผล ได้นำทั้ง 2 คนไปตรวจค้นที่บ้านที่พักอยู่ในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่บ้านเลื่อมโพธิ์ ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี ก็พบของกลางจำนวนมาก โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่ทางโรงพยาบาลที่นางศรีสุดา ทำงานอยู่ได้แจ้งหายไว้ ซึ่งขณะตรวจค้นนางศรีสุดา แกล้งทำเป็นลมชักหมดสติ และฟื้นหลังถูกนำตัวส่ง ร.พ. และควบคุมมาทำการสอบสวน ซึ่งทั้ง 2 ยังคงให้การภาคเสธ
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุตระเวนงัดหมู่บ้านจัดสรร 100 กว่าหลัง มาเป็นนานเป็นปีแล้ว ที่สำคัญนางศรีสุดา ทำงานอยู่โรงพยาบาล ก็ยังแอบขโมยทรัพย์สินภายในโรงพยาบาล จะเอาทุกอย่างและรู้จักมุมกล้องในโรงพยาบาลเป็นอย่างดี ทำให้ไม่สามารถจับภาพตอนที่ขโมยไปได้ จนมาเจอของกลางในบ้านพักที่เช่าอยู่กับสามีที่คบอยู่ด้วยกัน ประมาณ 1 ปีเศษ สำหรับทรัพย์สินที่ขโมยมาก็จะนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า และโพสต์ขายในเฟซบุ๊กของตัวเองในราคาถูก เงินที่ได้จะไปใช้จ่ายอยู่แบบคนมีเงิน กินอาหารราคาแพง ใช้สิ่งของราคาแพง ทำให้คนข้างบ้านที่ทั้งสองคนไปเช่าบ้านพักอยู่ คิดว่า 2 ผัวเมีย เป็นคนรวยมีเงิน และก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 59 ตำรวจได้จับกุม นายปฏิภาณ หรือโอ ชำนาญพรม โจรออฟเดอะเยียร์ งัดบ้านจัดสรร 33 หลัง ซึ่งก็เป็นลูกชายของนางศรีสุดา ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา 2 ผัวเมีย ว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ หรือรับของโจร ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
