วันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจจับกุมนายกฤษณะชัย จันทราศรี อายุ 51 ปี อดีตเภสัชกร ชาว ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย หลังก่อเหตุร่วมกับลูกจ้างสาวใช้อาวุธมีดแทงพ่อตา-แม่ยาย เสียชีวิตที่บ้านพักใน จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อเดือนมกราคม 2548 ก่อนหลบหนีมาอยู่ที่ย่านดอนเมือง และถูกจับกุมตัวไว้ได้ ขณะเดียวกันตำรวจยังติดตามจับกุม น.ส.ยุพิน ปานลอยวงค์ อายุ 28 ปี ลูกจ้างของนายกฤษณะชัย ได้ที่ จ.ชลบุรี ส่วนสาเหตุเกิดเหตุภรรยาของนายกฤษณะชัย ขอแยกทางเพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว ทำให้นายกฤษณะชัย เกิดความแค้น และขู่จะฆ่าทั้งครอบครัว กระทั่งมาก่อเหตุสังหารโหดพ่อตา-แม่ยาย ขณะเดียวกันตลอดเวลายังคอยข่มขู่ทางครอบครัว จนทำให้น้องอดีตภรรยาหวาดผวา จนต้องกินยาระงับประสาทมานานถึง 12 ปี

อ่านข่าว พ้นนรกเสียที! จับหนี 13 ปี ฆ่าพ่อตา-แม่ยาย ครอบครัวเหยื่อโล่งใจ หลังโดนข่มขู่มาตลอด

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายกฤษณะชัย มาสอบปากคำ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนายกฤษณะชัย ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า วันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งจะลงมือฆ่าผู้เสียชีวิต แต่ด้วยปัญหาที่สะสมมากับอดีตภรรยา จึงชักชวน น.ส.ยุพิน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดปากเสียงและใช้อาวุธมีดที่นำติดตัวไปลงมือทำโดยไม่รู้ตัวและหลบหนี จนกระทั่งปี 2554 ได้ย้ายมาอยู่ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ขายอาหารตามสั่ง และเปิดร้านขายของชำใช้ชีวิตกับภรรยาใหม่ พร้อมระบุว่าหลังก่อเหตุ 2 ปี ตนก็สำนึกผิดมาโดยตลอด และคิดว่าครอบครัวผู้เสียหายจะให้อภัยแล้ว แต่พอมีข่าวออกมาว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิต อยู่อย่างทุกทรมานมาตลอด 13 ปี จึงรู้สึกสงสาร และอยากให้ครอบครัวผู้เสียหายอภัยและอโหสิกรรมให้ ซึ่งการอโหสิกรรมก็ไม่ได้หวังว่าตนจะพ้นผิด แต่การให้อภัยคือสิ่งที่จะทำให้พ้นทุกข์และเขาจะมีชีวิตที่มีความสุขตลอดไป

ด้าน พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย กล่าวว่า ตลอด 13 ปี ที่ผ่านมา ตำรวจได้พยายามติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด แต่ที่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีการเคลื่อนไหว ทางทะเบียนราษฎร์ตั้งแต่ปี 2547 และย้ายถิ่นฐานหลบหนี รวมถึงการตรวจสอบทางโทรศัพท์มือถือก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์สาธารณะในการข่มขู่พยาน แต่คดีนี้ตำรวจได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปตั้งแต่ปี 2548 แล้ว และหลังจับกุมตัวได้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ให้การรับสารภาพ จึงเตรียมคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่จังหวัดเชียงรายในวันพรุ่งนี้ รวมถึงชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพและคุมตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงราย พร้อมคัดค้านการประกันตัว

“ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่ามีผู้มีอิทธิพลเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาจนไม่สามารถจับกุมตัวได้ ผมยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเชื่อว่าจะไม่มีผู้ให้การช่วยเหลือ เนื่องจากตนทำงานเป็นข้าราชการตำรวจในพื้นที่มานานกว่า 33 ปี แต่หากตรวจสอบพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชากระทำการเช่นนั้นจริงก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาโดยไม่ละเว้น” พ.ต.อ.วิรัช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทราบข่าวการจับกุมคนร้ายญาติของผู้เสียชีวิตได้ร่ำไห้พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวที่ช่วยนำเสนอข่าวจนสามารถจับกลุ่มคนร้ายได้ หลังเกิดเหตุ 13 ปีคดีไม่คืบหน้า ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและถูกข่มขู่มาโดยตลอด รู้สึกสบายใจขึ้นที่สามารถจับกุมคนร้ายได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน