วันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ศูนย์ขนส่งทางอากาศบริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ร่อนลงที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช หลังจากได้ช่วยนำลูกเรือคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกเรือน้ำมันเถื่อนกระโดดลงจากเรือหนีตายตั้งแต่งวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา และในช่วงเช้าวันนี้ (19 พ.ค.) เรือบรรทุกปิโตรเลียมเหลวของบริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ช่วยชีวิตนำตัวขึ้นมาจากทะเลพาไปยังแท่นขุดเจาะ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ต่อมาเฮลิคอปเตอร์ได้นำตัวเดินทางขึ้นฝั่งมาลงที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชได้อย่างปลอดภัย ซึ่งชายคนดังกล่าวอยู่ในชุดป้องกันเชื้ออย่างรัดกุม โดยมี พ.ต.ท.จรินทร์ ขาวเอี่ยม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อมารอรับตัวเพื่อทำการสอบสวน
ภายหลังที่เดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศรชล ภาค 2 น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ รองผู้อำนวยการศรชลภาค 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าสอบปากคำชายคนดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายสันติชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เป็นลูกเรือชื่อว่า “ลีโอปัตตานี” ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ นายสันติชัย ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า เรือลีโอปัตตานี เป็นเรือดัดแปลงบรรทุกน้ำมันประมาณ 100,000 ลิตร ขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเรืออยู่กลางทะเลห่างจากฝั่งกว่า 200 ไมล์ หรือประมาณ 400 กิโลเมตร จากชายฝั่งนครศรีธรรมราช บนเรือมีลูกเรือพร้อมไต้ก๋งรวม 7 คน ซึ่งไต้ก๋งเรือมีอาการเมาสุรามาหาเรื่องตน แล้วได้ใช้อาวุธปืนทุบตีต้นคอ ก่อนที่จะกันยิงใส่ 1 นัด กระสุนเฉี่ยวลำคอ
“หลังจากนั้นจึงตัดสินใจคว้าเสื้อชูชีพแล้วกระโดดลงทะเลหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต โดยคิดว่าขอไปตายเอาดาบหน้า เพราะหากยังอยู่บนเรือก็ถูกยิงตายแน่นอน คิดว่าถ้ากระโดดหนีลงทะเลพร้อมชูชีพอาจมีทางรอด และได้ลอยคออยู่กลางทะเลถึง 3 วัน จนกระทั่งมีเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มาพบและช่วยชีวิตไว้ได้ เหมือนได้เกิดใหม่” นายสันติชัย กล่าว
ส่วนทางด้านคดี พ.ต.ท.จรินทร์ ได้รับแจ้งความไว้เนื่องจากมีพฤติการณ์พยายามฆ่า และจะสอบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนด้วย จากนั้นสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้นำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.มหาราชฯ เพื่อตรวจเชื้อโควิด-19 และคัดกรองอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากศูนย์ขนส่งทางอากาศบริษัทเชฟรอน รวมทั้งบุคคลากรแท่นขุดเจาะ และระบบขนส่งได้ดูความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแล้ว
