รอดหวุดหวิด พายุพัดเสาไฟตั้งสายเคเบิล ซึ่งมีสายสื่อสารหลายบริษัทใช้ร่วมกัน ล้มทับรถเก๋งหลังคายุบ สองผัวเมียบาดเจ็บ ยังไม่รู้หน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระศรีอยุธยา รับแจ้งมีเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์เก๋ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บนถนนสายบ้านกรด-วัดขนอน ม.10 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานการไฟฟ้าภูมิภาคพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้การช่วยเหลือ
ที่จุดเกิดเหตุมีฝนตกและลมพัดแรง พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กร-8979 พระนครศรีอยุธยา ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับจากด้านซ้ายจนหลังคารถยุบ กระจกแตก เสาไฟฟ้าล้มขวางถนน ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร เพราเกรงว่าจะเกิดกระแสไฟฟ้าชอร์ต ใกล้กันพบต้นไม้ล้มลงข้างทาง โน้มเอาสายสื่อสารขาด ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกจากตัวรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเร่งนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล
ต่อมาเจ้าหน้าที่การฟ้าส่วนภูมิภาคพระนครศรีอยุธยา เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าไม่ใช่เสาของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่เป็นเสาของระบบการสื่อสาร ซึ่งมีสายสื่อสารหลายบริษัทใช้ร่วมกันอยู่
สอบถามนายปัฐวิกร พลอยประเสริฐ์ อายุ 40 ปี คนขับรถยนต์เก๋ง ที่ยังอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า ตน และน.ส.พัชรินทร์ พลอยประเสริฐ์ อายุ 39 ปี ภรรยา กำลังเดินทางไปรับลูกที่บ้านญาติใกล้กับที่เกิดเหตุ ช่วงนั้นมีลมพัดและฝนเริ่มตก ตนขับมาช้าและเป็นช่วงทางโค้ง
นายปัฐวิกร กล่าวต่อว่า จังหวะนั้นได้ยินเสียงภรรยาร้อง “โอ๊ย” แล้วมีเสียงดังโครม ตอนแรกคิดว่ามีกิ่งไม้ตกใส่หลังคา พอหันไปมองพบว่าเสาไฟฟ้าล้มลงมาทับหลังคา ภรรยาบอกว่าเจ็บหลัง ตนพยายามเปิดประตูรถออก แต่เปิดไม่ได้ จนมีชาวบ้านมาช่วยกันเปิดประตู และช่วยภรรยาออกจากรถ ตนตกใจมาก และรถเสียหายมาก ยังไม่ทราบว่าหน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ
