วันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสร้างพระอุโบสถเหรียญบาท ที่วัดทุ่งเคล็ด หมู่ 3 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังประชาชนจากทั่วสารทิศแห่นำเหรียญบาทติดที่ผนังโบสถ์ เพื้อสร้างกุศลบำรุงพระพุทธศาสนา และล่าสุดเจ้าอาวาสวัดทุ่งเคล็ดยังมีแนวคิดนำสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่เก่าที่ไม่ถูกรางวัล มาติดฝาผนังอาคารเอนกประสงค์และเมรุเผาศพ แทนการทาสีผนัง เป็นวอลล์เปเปอร์ ลวดลายต่างๆ โดยให้พระภายในวัดช่วยกันติด สร้างการมีส่วนร่วมของพุทธศาสนิกชน เนื่องจากเห็นว่าล็อตเตอรี่เป็นของเหลือใช้ที่ยังมีคุณค่าอยู่มาก
พระเตชะธัมโม หรือหลวงพ่อแดง พระวัดทุ่งเคล็ด กล่าวว่า ขณะนี้พระอุโบสถเหรียญบาทมีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ด้านนอกติดเหรียญบาทเกือบครบเหลือด้านหลังพระอุโบสถอีกบางจุด ส่วนภายในที่เดิมตั้งใจจะติดเหรียญบาท ทางวัดเปรียญเป็นเหรียญ 10 บาทแทน เพราะมีสีทองสวยงาม ซึ่งพระอุโบสถใช้เหรียญบาทที่ผนังด้านนอกจำนวน 3.7 ล้านเหรียญ และเหรียญ 10 บาท ภายในอาคารอีกประมาณ 3 แสนเหรียญ มีการตกแต่งฝ้าเพดานด้วยไม้สักทองและพื้นอุโบสถเป็นหินแกรนิต ซึ่งการนำเหรียญบาทหรือเหรียญ 10 บาทมา ติดที่ผนังโบสถ์นี้ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้แม้จะทำบุญคนละเล็กละน้อย นำประชาชนที่มีจิตศรัทธา
นอกจากนี้ พระครูสมุห์อาทิตย์ อิศรญาโณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งเคล็ด ท่านยังได้มีแนวคิดเป็นกุศโลบายที่ชักนำพุทธาศาสนิกชนเข้าวัดมากขึ้น ด้วยการรับบริจาคสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือล็อตเตอรี่เก่ามาติดฝาผนัง ซึ่งเป็นของเหลือใช้ที่ประชาชนเห็นว่าไม่มีค่าเมื่อตรวจรางวัลแล้วไม่ถูกก็จะทิ้งไป จึงขอรับบริจาคสลากกินแบ่งใช้แล้ว เพื่อนำมาติดที่ผนังอาคารฌาปนสถานหรือเมรุเผาศพ ที่ด้านหนึ่งใช้เป็นศาลาอเนกประสงค์ โดยติดเป็นลวดลายต่างๆ ที่งดงาม
โดยพระลูกวัดได้ช่วยกันทากาวที่ฝาผนัง และติดสลากทั่วบริเวณภายในและภายนอกอาคารทั้งหลัง แต่ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะต้องใช้สลากทั้งหมด 3 ล้านฉบับ เพื่อให้เกิดคุณค่าของเหลือใช้อีกทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ละชุดจะมีลวดลายและสีสันไม่เหมือนกัน เมื่อนำมาติดบนผนังกลายเป็นลวดลายที่สวยงามได้ ทำให้กลายเป็นอาคารฌาปนสถานหรือเมรุเผาศพที่มีมูลค่าแพงที่สุด หากคิดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลซื้อมาด้วยเงินฉบับละ 80 บาท จำนวน 3 ล้านฉบับ จะมีราคาสูงถึง 240 ล้านบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้หากดำเนินการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระอุโสบสเหรียญบาทจะขัดและทาน้ำยากันสนิมก่อนที่จะเคลือบทับอะคริลิคใสอย่างดี ส่วนอาคารฌาปนสถานหรือเมรุเผาศพ จะเคลือบทับด้วยแลคเกอร์แบบหนา เพื่อรักษาสภาพให้สวยงามและไม่เสียหายจากสภาพอากาศทั้งแดดและฝนนั้นเอง
ด้าน นางจารุรินทร์ จันพิพัฒน์ไพบูลย์ ชาวบ้านทับสะแก กล่าวว่า อยากเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านที่มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคเหรียญบาทสำหรับติดผนังโบสถ์และสลากกินแบ่งเหลือใช้ เพราะการก่อสร้างพระอุโบสถยังต้องใช้ปัจจัยอีกจำนวนหนึ่งกว่าจะแล้วเสร็จ ประกอบกับวัดทุ่งเคล็ดเป็นวัดที่เพิ่งได้รับการเลื่อนชั้น ยังไม่มีทุนทรัพย์มากพอ และการก่อสร้างโบสถ์ที่สวยงามเช่นนี้ มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญเพื่อทำนุบำรุงศาสนาต่อไป
จากเดิมที่วัดทุ่งเคล็ดเป็นสำนักสงฆ์ในที่ห่างไกลมีพระจำพรรษาเพียงไม่กี่รูป ได้รับการเลื่อนวิทยะฐานะขึ้นเป็นวัดเมื่อปี 2550 มี พระครูสมุห์อาทิตย์ อิศรญาโณ เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งเคล็ด ปัจจุบันมีพระสงฆ์และแม่ชีจำวัดอยู่ 30 รูป และเริ่มเป็นที่รู้จักต่อพุทธศาสนิกชนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเจ้าอาวาสวัดมีแนวติดนำเหรียญบาทมาประดับพระอุโสบทเมื่อทั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระประชวรประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อที่ประชาชนที่มีทำบุญที่วัดทุ่งเคล็ด มากราบพระอุโบสถจะได้กราบในหลวง รัชกาลที่ 9 และพระถวายพระราชกุศลไปพร้อมกัน
