เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ฝนตกหนัก และน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมขังโรงเรียนบ้านโนนราษี วัด บ้านเรือนราษฏร และนาข้าวหมู่ 8 ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด จมน้ำมานานกว่า 45 วัน เนื่องจากเขื่อนเหนือยังระบายน้ำลงสู่ลำน้ำชีสู่จ.ร้อยเอ็ด และฝนตกหนักในพื้นที่ทั้งกลางคืน กลางวัน โดยระดับน้ำยังท่วมขัง 1-2 เมตร ครูต้องอพยพนักเรียนไปอาศัยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านโนนราษี และบ้านดอนโมง ซึ่งมีสภาพเป็นเกาะต้องนั่งเรือเสี่ยงอันตรายไปเรียน เกิดปัญหาเด็กเรียนไม่เต็มที่ และห้องเรียนคับแคบ หนักสุด นาข้าวที่กำลังสุกเก็บเกี่ยวไม่ทันจมน้ำเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 1,470 ไร่ วันนี้เริ่มเน่าแล้วและส่งกลิ่นเหม็นหวั่นเกิดโรคภัยแก่ราษฎร ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังอาศัยอยู่ที่เพิงพักบนพนังกั้นน้ำหน้าหมู่บ้านสู่แดดฝน ลมแรง อากาศหนาวเย็น และยุงร้ายอย่างน่าสงสาร เดือดร้อนหนักสิ่งที่ต้องการยามนี้คือถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยารักษาโรค และอาหารสัตว์
นายประยูร วิเศษวุฒิ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนราษี หมู่ 8กล่าวว่า น้ำท่วมบ้านโนนราษี หมู่ 8 ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ทำให้ไร่นาเกษตรกรเสียหาย 123 ราย นาข้าวจมน้ำเสียหายสิ้นเชิงกว่า 1,470 ไร่ โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านโนนราษี น้ำไหลทะลักเข้าโรงเรียนสุดความสามารถที่ครู-นักเรียน-ชาวบ้านจะป้องกันไว้ได้ เนื่องจากน้ำชีไหลบ่าเข้าประตูระบายน้ำห้วยดางเดียว ทางบ้านมะแว อีกด้านหนึ่งไหลบ่ามาทางต.มะบ้า จากอ.เชียงขวัญ ประกอบกับฝนตกหนักในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด เกิดน้ำท่วมขังไม่มีทางระบายออกหรือทำให้ลดได้ โรงเรียนมีนักเรียน 60 คน ครู 8 คน ต้องอพยพนักเรียนขึ้นไปเรียนที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านโนนราษี และที่บ้านดอนโมง อีก 2 ชั้นเรียน ซึ่งน้ำท่วมสูงมีสภาพเป็นเกาะ เดือดร้อนหนักบางรายต้องอพยพไปสร้างเพิงพักบนพนังกั้นน้ำ ความต้องการในส่วนของหมู่บ้าน คือ ถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยารักษาโรค หญ้า และอาหารสัตว์ ในส่วนของโรงเรียนหลังน้ำลด ต้องการงบประมาณ มาปรับปรุง ซ่อมแซมโรงเรียน และดินมาถมพื้นที่ให้สูงขึ้นเนื่องจากพื้นที่ต่ำ
ด้านครูกรรณิการ์ วิเศษวุฒิ ครูพี่เลี้ยงนักเรียนชั้นอนุบาล 1 เปิดเผยว่า การย้ายเด็กไปเรียนที่อื่นทำให้เด็กเรียนไม่เต็มที่ ห้องเรียนก็คับแคบ คาดว่าน้ำจะท่วมขังโรงเรียนอีกนาน 2-3 เดือน เพราะฝนยังคงตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่จ.ร้อยเอ็ดน้ำท่วมอีกนานกว่า 3 เดือน เกิดจากพื้นที่หมู่บ้านริมฝั่งลำน้ำชี มีพนังกั้นน้ำรอบหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ทำให้น้ำชีไหลทะลักข้ามพนังกั้นน้ำ หรือ พังทลายพนังกั้นน้ำขาดเข้าท่วมขังไม่มีที่ระบายออกได้ จึงท่วมขังเป็นเวลานาน และเดือดร้อนเครื่องอุปโภคบริโภคหนักกว่าจังหวัดอื่น
