วันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ได้มอบหมายให้ น.ส.สิรินันท์ จินพละ นักสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุรินทร์ ปลัดอำเภอท่าตูม ร.พ.สต.ทุ่งกุลา อบต.ทุ่งกุลา ส.อบต.ทุ่งกุลา อสม.หมู่ 4 และผู้นำชุมชน ม.4 เพื่อสอบข้อเท็จจริงสภาพความเป็นอยู่ครอบครัว หลังมีการโพสต์ขอความช่วยเหลือหญิงพิการทางสมอง อาศัยอยู่บ้านผุพังตามลำพัง หลังพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ 6 ขวบ ดิ้นรนเลี้ยงชีวิตตั้งแต่เด็ก ที่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 4 บ้านตานบ ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีสมาชิก 4 คน

โดยพบน.ส.สุภาพ ไกลเสือ อายุ 28 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างรายวัน น.ส.สุดา ไกลเสือ อายุ 29 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส.สุภาพ และเป็นผู้พิการทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิด ป่วยเป็นโรคเบาหาน ประกอบอาชีพช่างเสริมสวย แต่ยังช่วยเหลือตนเองได้ ด.ญ.วิภาวดี ไกลเสือ อายุ 4 ขวบ ลูกของน.ส.สุภาพ และด.ญ.ชิดชนก ไกลเสือ อายุ 2 ขวบ ลูกของน.ส.สุภาพ

จากการสอบถาม น.ส.สุดา เล่าว่า เดิมตนอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 4 ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพียงลำพัง ต่อมาตนก็ได้ย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของน.ส.สุภาพ ได้ประมาณ 1 ปี เนื่องจากบ้านที่ตนอยู่นั้นชำรุดทรุดโทรม สภาพบ้านผุพัง ฝาบ้านหลุดหายไปบ้างส่วน จนไม่สามารถใช้เป็นที่หลบแดดหลบฝน และไม่สามารถพักอาศัยได้ ปัจจุบันครอบครัวมีรายได้จากการรับจ้างรายวัน โดยเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวย ได้วันละ 200 บาท ที่ร้านเสริมสวยให้ไปช่วยงาน และเบี้ยยังชีพคนพิการ 800 บาทต่อเดือน อีกทั้งยังมีหลานที่ต้องดูแลอีก 2 คน ทำให้รายได้ของครอบครัวไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

เบื้องต้นทาง พมจ.สุรินทร์ได้ปรับสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ, ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ และยังมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1 ชุด และข้าวสาร จำนวน 2 ถุง เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ จำนวน 3,000 บาท ให้คำแนะนำเกี่ยวกับทุนกู้ยืมประกอบอาชีพคนพิการ ให้คำแนะนำในเรื่องการเข้าฝึกอาชีพเสริมสวย ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านทองพูนเผ่าผนัส จ.อุบลราชธานี โดยปลัดอำเภอท่าตูม อบต.ทุ่งกุลา และศูนย์การศึกษาพิเศษประจำหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่มอบของขวัญและกำลังใจให้แก่ครอบครัวคนพิการ ส่วนร.พ.สต.ทุ่งกุลา ให้การดูแลด้านสุขภาพ

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน