เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายบุญสืบ เผือกอ่อน ชาวบ้านเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ต.ชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยถึงความคืบหน้าในวันที่ 2 ของการช่วยเหลือลูกช้างป่า อายุ 10 ปี หนัก 3 ตัน ที่ถูกน้ำป่าพัดลงมาจากเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จนมาติดอยู่ในคลองชมภู ห่างจากเขตอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตรว่า เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทีมสัตว์แพทย์ได้พยายามเข้าช่วยเหลือทุกวิถีทาง ทั้งการนำรถแบคโฮปรับตลิ่งให้ราบ และโยนเชือกและไม้ไผ่ลงไปให้แต่ช้างไม่ยอมดึง แต่กลับเดินหนีออกไปอีก 100 เมตร รวมทั้งการจุดธูปไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา จนกระทั่งเวลา 5 ทุ่ม ช้างได้พยายามเข้ามาใกล้ตลิ่งเพื่อนอนพักแต่ก็กลิ้งตกน้ำลงไปอีก จนกลางดึกช้างพยายามเดินไปขึ้นตลิ่งฝั่งตรงข้ามแต่ไม่สำเร็จ จนเริ่มอ่อนแรงหยุดนิ่งกับที่และพยายามชูงวดขึ้นตลอดเวลา

นายบุญสืบกล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงเช้าช้างเริ่มอ่อนแรงมากขึ้นจนยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้ได้ ทีมสัตว์แพทย์จึงฉีดยาบำรุงและยาคลายเครียด จากนั้นนำเชือกคล้องแล้วระดมกำลังเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านนับร้อยคน ช่วยกันลากลูกช้างมาเกยอยู่ที่ตลิ่ง ซึ่งลูกช้างแสดงอาการหมดแรงจนล้มนอนลงในน้ำแต่ยังพอจะชูงวงพ้นน้ำเพื่อหายใจได้ โดยขณะนี้กำลังประสานรถแบคโฮขนาดใหญ่ และทีมเจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จาก จ.ลำปาง พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ มารับช้างไปตรวจรักษาโดยละเอียดต่อไป

“ชาวบ้านกังวลมาก เพราะไม่รู้ว่ามันถูกพัดมาไกลแค่ไหน หรืออยู่ในน้ำมากี่วันแล้วก่อนที่จะพัดมาจนคนไปเจอ ปกติช้างถ้าอาการไม่หนักก็จะไม่ยอมล้ม ตอนนี้ก็ได้แต่รอทีมจากลำปางและรถแบคโฮขนาดใหญ่มาช่วยต่อ ซึ่งน่าจะมาถึงในช่วงบ่าย” นายบุญสืบ กล่าว

 

ขอบคุณภาพและคลิปวิดีโอจากเฟซบุ๊ก : บุญสืบ เผือกอ่อน ชาวบ้านเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน