จากกรณีผู้เสียหายโพสต์เฟซบุ๊กว่าตัวเองเป็นคนเสื้อแดง ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนหุ้นกับกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกัน โดยในกลุ่มจะเปิดให้สมาชิกลงทุนในราคาต่างๆ ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน แล้วจะได้เงินปันผลตามที่ตกลงกันไว้ เช่นรอบแรกรายวัน ราย 2 วัน ราย 3 วัน และราย 4 วันเป็นต้น แต่กลับไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ตกลงกันไว้ โดยมีผู้เสียหายกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนก็ไปแจ้งความที่โรงพักใกล้เคียง บางส่วนได้เข้าไปแจ้งความที่กองปราบ

ล่าสุดวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง น.ส.พจมาน หรือนุช นิลนาค ซึ่งเป็นผู้โพสต์ พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) และนายบี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน 6-7 ปีแล้ว โดยรู้จักกันหลังตนไปร่วมชุมนุมในการเรียกร้องประชาธิปไตยของคนเสื้อแดงตามสถานที่ต่างๆ แล้วตนจะได้พบเจอกับ น.ส.เอ และ นายบี เป็นประจำ จนมีความสนิทสนมกัน หลังจากนั้นนายบี ก็ถูกจำคุกในข้อหาล้มการประชุมอาเซียน ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 4 ปี ระหว่างนั้น น.ส.เอ ก็ได้ชักชวนตนไปลงทุนในพอร์ตหุ้นด้วยกันในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มปิด ซึ่ง น.ส.เอ บอกว่าได้ผลตอบแทนดี แล้วในพอร์ตนี้ก็มีคนเล่นเยอะมาก และทุกคนก็จะบอกว่าได้ผลตอบแทนตามที่กำหนดจริงๆ ส่วนมากคนที่เล่นก็เป็นพี่น้องเสื้อแดง

น.ส.พจมาน เปิดเผยว่า จากนั้น น.ส.เอ ก็ได้ดึงตนเข้ากลุ่มเฟซบุ๊ก ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก ตนจึงตัดสินใจยืมเงินของแม่สามีจำนวน 60,000 บาท ไปลงทุน ระหว่างนั้น นายบี ก็ได้รับการประกันตัวออกมา หลังจากนั้นพอตนลงทุนไปในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งจะได้รับเงินปันผลในช่วงต้นเดือนกันยายน แต่แล้วกลับไม่ได้รับเงิน ซึ่งครั้งแรกบอกว่าจะได้วันที่ 5 ก.ย. แต่กลับไม่มีเงินเข้ามา และเลื่อนไปเป็นวันที่ 10 ก.ย. ก็ยังคงเป้นเช่นเดิม โดยนายบี ได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก บอกว่าให้สมาชิกทุกคนใจเย็นๆ เงินจะได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ตนเอาไปลงทุนหลายทาง ทั้งเงินดอลลาร์ ทองคำ เดี๋ยวเงินจะเข้าอีกในวันที่ 15 ก.ย. แต่พอถึงกำหนด ก็ยังไม่ได้รับเงิน แล้วก็มีการเลื่อนออกไปอีกเป็นวันที่ 25 ก.ย. ก็ยังไม่ได้รับเงินอีกเช่นเคย

ตนจึงเริ่มเกิดความสงสัย และก็มีการพูดคุยกันภายในกลุ่ม ตนถึงทราบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกเป็นจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท จึงได้คุยกันว่าจะดำเนินคดี 2 คนนี้ให้ถึงที่สุด และในวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมาตนพร้อมกลุ่มผู้เสียหายก็ได้นำเอกสารและหลักฐานไปให้เจ้าหน้าที่กองปราบ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนทราบมาว่าในขณะนี้ทั้ง 2 คนได้ไปเปิดห้องใหม่ ที่ใช้ชื่อว่าซูเปอร์ วีไอพี แล้ว ตนกลัวว่าจะมีผู้หลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อของทั้ง 2 คนนี้อีก ตนจึงตัดสินใจแจ้งความในที่สุด

ทำให้ทุกวันนี้ชีวิตย่ำแย่ เงินจ่ายค่าไฟแทบจะไม่มี เงินค่าเล่าเรียนก็เหมือนกัน ทำให้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ซึ่งหลังจากไปแจ้งความแล้วก็เป็นผลดี เพราะได้มีสมาชิกท่านอื่นๆ ซึ่งอยู่ในหลายกลุ่ม หลายบ้าน เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก ถึงความชอบมาพากลในการลงทุนพอร์ตหุ้นดังกล่าว จากนั้นตนจึงได้นำเรื่องไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเพื่อเตือนภัย และมีการปรึกษาทนายความเรียบร้อยแล้วก่อนจะนำเรื่องไปโพสต์เตือนภัยดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน