วันที่ 21 ต.ค. พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง ผบ.ทรภ.1 และ ผอ.ศรชล. เขต 1 จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นายสมชาย สุขสวัสดิ์ อายุ 36 ปี ว่าเกิดเหตุเรือประมงประเภทอวนครอบปลากะตัก ขนาด 7 วา 2 ศอก ชื่อเรือพานชัย 2 พลิกคว่ำจมลงสู่ใต้ทะเล มีไต๋เรือเป็นคนไทย และลูกเรือชาวไทย 2 คน ชาวกัมพูชา 3 รวม 5 คน ตะเกียกตะกายออกจากตัวเรือลอยคอในทะเล มีเรือประมงผ่านมาเข้าช่วยเหลือรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดอยู่ในทะเล ห่างจากเกาะกูดประมาณ 4-5 ไมล์ทะเล ทางทิศตะวันออก
หลังได้รับแจ้งจึงสั่งการให้ พล.ร.ต.สำเริง จันทร์โส เสธ.ทรภ.1 จัดชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล และการเก็บกู้เรือจม จากเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง นำกำลังพลประจำเรือและชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมเรือยาง เครื่องยนต์เร็วติดท้ายและอุปกรณ์ดำน้ำ เร่งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบเพียงเชือกสมอเรือ พานชัย 2 ลอยอยู่ในทะเล ส่วนตัวเรือทั้งหมดจมอยู่ใต้ท้องทะเล โดยมีเรือประมงที่ทราบเหตุต่างรุดเข้ายังที่เกิดเหตุนับสิบลำ
จากการสอบถาม นายสมชาย ไต๋เรือ ทราบว่า ได้นำเรือออกจากท่าเทียบเรือแพปลามีลาภ ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ออกทำการประมงบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จนสามารถจับปลากะตักได้ 3-4 ตัน เกือบเต็มห้องเก็บปลาและกำหนดกลับเข้าฝั่งในวันที่ 22 ต.ค.ที่จะถึงนี้ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้จับปลากะตักจนเกือบรุ่งเช้า และเข้าหลับนอนในเรือด้วยความอ่อนเพลียเมื่อเวลา 07.00 น. พร้อมด้วยลูกเรือรวม 5 คน มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อเรือจมลงสู่ก้นทะเลแล้ว จึงได้กระเสือกกระสนว่ายน้ำออกมาจากตัวเรือลอยคออยู่ในทะเล จนเรือประมงผ่านมาช่วยเหลือรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด
ส่วนสาเหตุที่เรือจมนั้น ในขณะเกิดเหตุไม่มีคลื่นลมแรงแต่อย่างไร สาเหตุน่าจะเกิดจากแตรน้ำเสีย ทำให้น้ำที่ซึมเข้าท้องเรือเพิมขึ้นเรื่อยๆ จนเรือจม โดยที่ตนและลูกเรือไม่รู้สึกตัวแม้แต่คนเดียว หากแตรน้ำไม่เสียเมื่อมีน้ำเข้าเรือมากจนถึงระดับแตรน้ำเตือนจะมีเสียงแตเตือน ทุกคนก็จะช่วยกันปั๊มน้ำออกจากตัวเรือ แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงเตือน จึงทำให้นำเข้าเรือจำนวนมาก จนเรือจมดังกล่าว
พล.ร.ท.บรรจบ กล่าวว่า หลังรับแจ้งได้สั่งการให้ เสธ.ทรภ.1 สั่งเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งที่อยู่ใกล้ที่สุดคือเรือ ต.227 เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้รับลูกเรือทั้ง 5 คน กลับขึ้นฝั่งเพื่อทำการตรวจสุขภาพ พร้อมประสานกับเจ้าของเรือประมงที่จม นำประดาน้ำจากกองทัพเรือดำน้ำลงไปผูกเชือก เพื่อลากเรือเข้ามายังที่ปลอดภัยบริเวณชายฝั่งต่อไปแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุใดๆ ในทะเลก็ตามกองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ
