สาว รพ.เลิกงานดึก ขี่ จยย.กลับบ้านคนเดียวถูก 2 หนุ่ม ขี่ จยย.ไล่ตาม บิดหนีสุดชีวิต คาดหวังประสงค์ร้ายอย่างแน่นอน วอนตร.ตามจับตัว
วันที่ 14 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “แจ้งเตือนภัยบริเวณทางแยกเลยปั๊มบางจากแยกเลี้ยวซ้าย มีชาย 2 คน ขับรถฮอนด้าดรีมซุปเปอร์คัพ สีฟ้า-ขาว ไม่ติดกระจก นั่งรอบริเวณทางแยก หากเห็นเป็นผู้หญิงขับรถมาคนเดียว จะขับไล่ตามเพื่อปล้นเอาทรัพย์สิน เหตุเกิดเวลา ประมาณ 00.45 น. ใครผ่านทางนี้ระวังด้วยนะคะ” จุดดังกล่าวเป็นทางแยกจากถนนสายปากน้ำ – ชอนไพร ใกล้กับปั๊มน้ำมันบางจาก หมู่ที่ 5 ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ หากเป็นเวลากลางคืนจะเปลี่ยวมากเนื่องจากไม่มีบ้านของชาวบ้านรวมทั้งปั๊มน้ำมันก็ปิดให้บริการแล้ว
น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และต้องใช้เส้นทางนี้กลับบ้านเป็นประจำ ในวันเกิดเหตุหลังจากที่ตนเลิกงานเวลาประมาณ 00.30 น.คืนวันที่ 12 เม.ย.2564 ก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านเพียงคนเดียว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยกเข้าหมู่บ้านก็ได้สังเกตเห็นผู้ชาย 2 คนอายุประมาณ 25 – 30 ปี จอดรถจักรยานยนต์อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านเป็นรถจักรยานยนต์ HONDA dream super cup สีฟ้า-ขาว ไม่ติดกระจก และทำท่าทางเหมือนรถเสีย พอตนขับไปถึงทั้งสองคนก็เหลือบมอง
เมื่อเลี้ยวรถก็ยังมองตามอีก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบิดคันเร่ง แต่ทั้งสองคนก็รีบคว้ารถจักรยานยนต์และขี่ตามมาอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงทางโค้งตนชะลอความเร็ว รถที่ไล่ตามก็เกือบจะทันอยู่แล้ว ตนจึงเร่งความเร็วขึ้นอีกจนเกือบจะแหกโค้ง จากนั้นก็บิดหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่รถคันดังกล่าวก็ยังไล่ตามอย่างกระชั้นชิดจนถึงกลางหมู่บ้านจึงเลี้ยวรถกลับ
เมื่อถึงบ้านตนก็รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและไปหาผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้ช่วยพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และเมื่อย้อนกลับมาจุดเกิดเหตุก็พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจซึ่งได้มาตรวจสอบตามคำรับแจ้งทางโทรศัพท์ของตนเอง แต่ก็ไม่พบตัวรถจักรยานยนต์และชายทั้ง 2 คนแล้ว
หลังจากแจ้งความแล้วตนก็เดินทางกลับมาที่บ้านแต่ก็นอนไม่หลับเลยเลย เนื่องจากมีความกลัวเป็นอย่างมาก ครั้งต่อไปหากเลิกงานดึกตนก็คงต้องให้ญาติ ๆ ขับรถไปรับอย่างแน่นอน เพราะหากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวได้ก็ไม่รู้ว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีกหรือไม่ หลังจากนั้นตนจึงนำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อเตือนภัยให้กับผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว
