กรณีนางจันทร์เพ็ญ หนูแดง อายุ 32 ปี ถูกนายปรีชา หนูแดง อายุ 35 ปี สามีฆ่ารัดคอเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 329/34 หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 พ.ย.) ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมตัวนายปรีชา ไว้ได้ โดยสาเหตุเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากนางจันทร์เพ็ญ ได้หนีไปอยู่กับสามีใหม่ กระทั่ง นายปรีชาไปตามหาจนเจอและรับกลับมาบ้านเพื่อขอร้องให้มาอยู่กินกันเหมือนเดิม เพราะสงสารลูก 4 คน แต่นางจันทร์เพ็ญไม่ยอมคืนดี จึงถูกฆ่าเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว แค้นหนักมีลูกด้วยกัน 4 คน หนีไปมีคนใหม่ ผัวตามทะเลาะ สุดท้ายเจอรัดคอดับ (คลิป) อ่านข่าว จับผัวโหด! ฆ่ารัดคอเมียดับคาห้องนอน รับแค้นใจหนีมีชู้หลายครั้ง-ไม่สนลูก4คน
ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายปรีชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยเป็นจุดที่นายปรีชา ฆ่ารัดคอ นางจันทร์เพ็ญ เสียชีวิตในห้องนอน โดยก่อนหน้านั้นมีการทะเลาะกัน นายปรีชา จึงผลักร่างนางจันทร์เพ็ญ ให้นอนคว่ำหน้า แล้วขึ้นคร่อมร่างใช้ผ้าขาวม้ารัดคอจนเสียชีวิต จากนั้นนายปรีชา ได้ออกจากห้องแล้วล็อคประตูด้วยโซ่คล้องด้วยกุญแจ ทิ้งศพไว้ในห้อง ก่อนจะไปขี่รถ จยย.พ่วงข้างที่จอดอยู่ข้างบ้านขับหลบหนีไป ก่อนถูกจับกุมตัวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีนางหนูพร้อม หนูแดง อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายปรีชา พร้อมลูกๆ ของนายปรีชา ร้องไห้ตลอดเวลา ท่ามกลางความโศกเศร้าของชาวบ้านที่มามุงดูจำนวนมาก และหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้วตำรวจก็ได้ควบคุมตัวนายปรีชา ไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
นายปรีชา กล่าวขณะทำแผนว่า แม้ตนจะผลักนางจันทร์เพ็ญ จนคว่ำหน้าแล้วขึ้นคร่อมเอาผ้าขาวม้ารัดคอ ก็ยังถูกนางจันทร์เพ็ญ ด่าตลอดเวลา ทำให้โมโหจนลืมตัวก่อนจะพลั้งมือรัดจนแน่นจนนางจันทร์เพ็ญ เสียชีวิตในที่สุด ในขณะที่ลูกทั้ง 4 คน ต้องกำพร้าแม่ พ่อติดคุก จึงต้องอยู่ในความดูแลของย่าที่มีฐานะทางบ้านลำบาก ทางตำรวจจึงรู้สึกสงสารและได้มอบเงินให้นางหนูพร้อม จำนวนหนึ่งด้วย
