ประจวบคีรีขันธ์ เตรียมประกาศพื้นที่บ้านเขาปอทับสะแกเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ เฝ้าระวังดินสไลด์และหินถล่ม พร้อมห้ามคนนอกเข้าไปเซลฟี่ถ่ายรูปหินถล่มหวั่นไม่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.กอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายวรวิทย์ อิ่มทรัพย์ หน.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ที่ หย.2(น้ำตกขาอ่อน ,ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 2 ศูนย์การทหารราบ อ.ทับสะแก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดปัญหาดินสไลด์และหินถล่ม บ้านเขาปอ หมู่ 7 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสำรวจพื้นที่ความเสียหายจากปัญหาฝนตกหนัก เนื่องจากอิทธิพลของความกดอากาศต่ำกำลังแรง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.
ซึ่งบริเวณบ้านเขาปอ เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่า 2 ชั่วโมง ปริมาณน้ำกว่า 190 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดดินสไลด์บนแนวเทือกเขาตะนาวศรี และทำให้หินแกรนิตขนาดใหญ่จำนวนมากกลิ้งจากเทือกเขาตะนาวศรีลงมาเป็นแนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง สร้างความเสียหายกว่า 25 ไร่ และที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับสะแกกว่า 20 ไร่
โดยเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางเตรียมประกาศให้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะบุคคลภายนอก, นักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวและเดินทางเข้ามาถ่ายรูป หรือเซลฟี่กับก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งบางก้อนหนักกว่า 100 ตัน เกรงว่าจะเกิดอันตรายได้ เพราะมีโอกาสสูงที่หินจะกลิ้งต่อไปยังพื้นที่ที่มีความลาดเอียง และทาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังดินสไลด์และหินถล่ม พร้อมเตรียมอพยพประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงแนวหินถ้าเกิดฝนตกหนักขึ้นอีก
นายสมนึก รุ่งกำจัด กำนัน ต.อ่างทอง กล่าวว่า ไม่เคยเจอเหตุการฝนตกหนักและมีหินถล่มแบบนี้มาก่อน ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีการเฝ้าระวัง ซึ่งวันเกิดเหตุในพื้นที่ได้มีการแจ้งเตือนภัยเรื่องของฝนตกหนักและอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันเท่านั้น ทำให้อพยพได้ทัน ไม่มีประชาชนได้รับอันตราย แต่มีน้ำท่วมขังในตัวเมืองทับสะแก และย่านชุมชนของ ต.อ่างทอง รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตร และมีวัวพันธุ์ของชาวบ้านถูกน้ำป่าพัดไปอีก 5 ตัว มูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท
นายสมนึก กล่าวต่อว่า แต่พอเห็นสภาพของบ้านเขาปอที่มีแนวหินขนาดใหญ่จำนวนมากไหลมาตามกระแสน้ำป่า บางก้อนหนักเป็นร้อยตัน ทำให้เกิดความกังวลว่า ต่อไปนี้พื้นที่บ้านเขาปอจะเป็นพื้นที่อันตรายที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติได้ จึงต้องมีการแจ้งเตือนกันในหมู่บ้านเพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หากพบมีฝนตกหนักต้องเตรียมย้ายมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ด้านนางปทุม สมิงปราบ ชาวบ้านเขาปอ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุมีฝนตกหนัก ตนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วป่า คิดว่าเป็นเสียงฟ้าร้องคำราม แต่บริเวณบ้านพักอยู่ห่างออกไปจากแนวหินที่ไหลมากับน้ำป่า ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์นาทีหินถล่ม แต่เมื่อมาดูพบว่ามีหินจำนวนมากไหลมากับน้ำป่า ทำให้รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เพราะอยู่มานานกว่า 50 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
ขณะที่นายวรวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานฯ ได้เดินเท้าสำรวจพื้นที่ความเสียหายขึ้นไปถึงแนวยอดเขาแล้ว เมื่อจับพิกัดจีพีเอสคำนวณพื้นที่ความเสียหาย ทำให้ทราบว่า มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกว่า 25 ไร่ ทั้งที่เกิดดินสไลด์และหินถล่ม ส่วนพื้นที่ติดกันเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับสะแก เท่าที่ประเมินด้วยสายตาคาดว่าเสียหายไม่น้อยกว่า 20 ไร่ เมื่อประเมินแล้วพบว่าพื้นที่บ้านเขาปอมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายซ้ำซ้อนขึ้น จากนี้จะดำเนินการทำป้ายมาติดประกาศเตือนห้ามเข้าในพื้นที่ เพราะอาจเกิดหินถล่มซ้ำอีก
ส่วนนายกิตติกรณ์ กล่าวว่า หลังจากสำรวจแล้วจะสรุปข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเตรียมประกาศพื้นที่บ้านเขาปอเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ เพื่อเฝ้าระวังเหตุดินสไลด์และหินถล่ม หากพบว่ามีฝนตกหนักจะต้องมีการอพยพชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยทันที ซึ่งขณะนี้มีการแจ้งเตือนไปยังทุกอำเภอให้เฝ้าระวังเฝ้าระวังปัญหาฝนตกหนัก เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนทางภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 18-24 พ.ย. ด้วย
