วันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ร.พ.บึงโขงหลง ว่ามีชาวนาเข้ามารักษาตัวเนื่องจากถูกงูกะปะกัดที่เท้าได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลดังกล่าว พบนายคำจันทร พันทะสา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 15 บ้านหนองบัวงาม ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจากพิษของงูกะปะ และมีเลือดไหลออกมาอาบฝ่าเท้า โดยมีงูกะปะความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร ที่ถูกฆ่าตายแล้วนำใส่ถุงพลาสติกมาเป็นหลักฐานอีกด้วย แพทย์จึงทำการรักษาด้วยการฉีดยาแก้พิษและล้างบาดแผลรักษาความสะอาดจากรอยเขี้ยว 2 รอย ทำให้การเจ็บปวดทุเลาลง
จากการสอบถาม นายคำจันทร เล่าว่า หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จใหม่ๆ ก็ได้นำข้าวออกมาตากผึ่งแดดเพื่อให้แห้งสนิทป้องกันเชื้อราก่อนจะนำไปเก็บบนยุ้งฉาง โดยนำตาข่ายสีน้ำเงินมาปูรองพื้นดิน ระหว่างนั้นก็เกิดมีพายุฝนฟ้าคะนอง จึงได้รีบวิ่งไปเพื่อจะเก็บข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้ โดยรื้อตาข่ายสีน้ำเงินม้วนพับเข้าหากัน แต่ไม่ทันมองเห็นงูกะปะที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ตาข่าย และเท้าก้าวไปเหยียบเอาส่วนหางงูพอดีจึงถูกฉกและกัดเข้าที่ข้างฝ่าเท้าด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ จึงเรียกญาติมาดูและตีงูจนตายเก็บใส่ถึงพลาสติก จากนั้นได้นำผ้าขวาม้ามาผูกรัดน่องเอาไว้ป้องกันพิษงูไหลเข้าสู่ร่างกายรีบมาพบแพทย์รักษาอาการดังกล่าว
ด้าน นายสมชาย อนันตจารุตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวเตือนพี่น้องประชาชนว่า ช่วงนี้เป็นปลายฝนความชื้นบนผิวดินยังมี ช่วงเย็นหรือค่ำงูกะปะชอบออกหากินกบกินเขียนที่ยังไม่เข้าจำศีล จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินไปตามสถานที่ต่างๆ หรือสวนยางพารา งูอาจซ่อนตัวอยู่ใต้ใบไม้ใบหญ้าอาจถูกกัดได้รับอันตรายได้
