ผู้เสียหายจากเงินกู้นอกระบบ กว่า 10 ราย รวมตัวยื่นหนังสือต่อตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี ใช้หนี้หมดแล้วแต่โฉนดไม่ได้คืน
วันที่ 9 มิ.ย. 64 ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ผู้เสียหายจากเงินกู้นอกระบบ กว่า 10 ราย ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.นครไทย นำโดย นางนภัสวรรณ อินมลเทียร มายื่นหนังสือต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามและเร่งรัดคดีที่นำที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่เมื่อนำเงินไปใช้หนี้พร้อมขอไถ่ถอนคืนโฉนดกลับถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมนำโฉนดที่ดินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งรวมเป็นเงินที่มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย จำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา และได้มีการยื่นเรื่องให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการช่วยเหลือแล้ว แต่กลับพบว่ามีการล่าช้าในการสอบปากคำผู้เสียหาย ทำให้สำนวนในการส่งให้อัยการ นำไปฟ้องต่อศาลนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้ต้องมายื่นเรื่อง เพื่อให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ช่วยเหลือทำสำนวนโดยเร็วที่สุด
นางนภัสวรรณ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนและผู้เสียหายจากการกู้เงินนอกระบบจากนายทุนรายหนึ่งในเมืองพิษณุโลก เพื่อต้องการนำเงินไปทำธุรกิจ โดยนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกัน แต่หลังจากนำเงินไปคืนนายทุนจนหมด แต่ไม่ได้โฉนดที่ดินคืน ต่อมาในปี 2561 ตนและผู้เสียหายทั้งหมด ได้ไปยื่นเรื่องต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แต่ทำไมสำนวนไม่คืบหน้า ไม่สามารถนำสำนวนส่งอัยการ เพื่อส่งต่อศาลในการฟ้องร้องคดีต่อไปได้
เมื่อสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้แต่เพียงคำตอบว่า ยังสอบผู้เสียหายไม่เสร็จทั้ง 40 ราย โดยสอบไปแล้ว 38 ราย ซึ่งตนไม่เข้าใจว่ามีปัญหาหรือติดขัดตรงไหน ถึงไม่สามารถส่งสำนวนต่ออัยการได้ ตนและผู้เสียหายทั้งหมด อยากให้เรื่องถึงขั้นตอนของศาลโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ศาลได้ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหายต่อไป
เบื้องต้น พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก มารับหนังสือแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากติดภารกิจ พร้อมกับจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อมกำชับและติดตามในการทำสำนวนของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ให้เร่งส่งสำนวนต่ออัยการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน
