ผู้ว่าฯ พิษณุโลก ไล่ออก กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 7 คน ทำเสื่อมเสียและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ หลังซื้อเสียงเลือกตั้งกำนันตำบลบ้านมุง

วันที่ 11 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงนามคำสั่งไล่ออก กำนันและผู้ใหญ่บ้าน 7 คน ใน ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ในข้อกล่าวหา มีพฤติการณ์ให้เงินกับผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งคนใด เพื่อให้ตนเองได้รับคัดเลือกเป็นกำนัน ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน เข้าลักษณะเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535

สำหรับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ที่ถูกคำสั่งไล่ออกประกอบด้วย 1.นายพิพัก สายคำดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านมุง, 2.นายชูชีพ น้อยพันธ์ กำนันตำบลบ้านมุง (ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านมุง), 3.นางสุพร เกษามูล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านมุง, 4.นายสมพร วงษ์พรม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านมุง, 5.นายเสน่ห์ โพธิ์ศรีอาจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านง, 6.นางแตงทัย แสงอุ่น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านมุง และ 7.นายสมจิตร พิมโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านมุง

ทั้งนี้ เรื่องเดิมจังหวัดพิษณุโลกได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง นายพิพัก สายคำดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 นายชูชีพ น้อยพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 นางสุพร เกษามูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นายสมพร วงษ์พรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 นายเสน่ห์ โพธิ์ศรีอาจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 นางแตงทัย แสงอุ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 และ นายสมจิตร พิมโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านมุง ซึ่งถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีกระทำการที่ขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการคัดเลือกกำนัน พ.ศ.2551และมีพฤติกรรมอาศัย หรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือ ผู้อื่นกระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาผลประโยชน์อันอาจทำให้เสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนตามมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 และตามคำสั่งจังหวัดพิษณุโลก ที่ 13687/2561 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ซึ่งได้รายงานผลการสอบสวนลงโทษภาคทัณฑ์ กำนัน-ผู้บ้านบ้าน ทั้ง 7 คน ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตามลำดับ

ต่อมากรมการปกครอง มีคำสั่ง ที่ มท. 310.2/ 1540 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2561 มีข้อพิจารณาจากการตรวจสอบรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวน ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติยศ ตำแหน่ง หน้าที่ราชการของตนเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535

จังหวัดพิษณุโลก จึงมีคำสั่งจังหวัดพิษณุโลกที่ 4940 /0562 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 และคณะกรรมการสอบสวน ได้ดำเนินการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหา พยานบุคคล และตรวจสอบหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว มีความเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 7 คนมีพฤติการณ์ให้หรือรับเงินกับผู้ใหญ่บ้านใด เพื่อให้ผู้อื่นได้รับการคัดเลือกเป็นกำนัน ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน เข้าลักษณะเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มีความผิดวินัยร้ายแรง สมควรให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ

ข้อกฎหมายและระเบียบ กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการคัดเลือกกำนัน พ.ศ.2551 ข้อ 8 การคัดเลือกกำนัน ต้องเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม นับแต่วันที่นายอำเภอประกาศให้มีการคัดเลือกกำนันจนถึงวันคัดเลือก ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้ใหญ่บ้านคนใด เสนอชื่อ หรืองดเว้นการเสนอชื่อหรือการลงคะแนนให้แก่ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งคนใด เพื่อรับการคัดเลือกเป็นกำนัน หรือมิให้ได้รับการคัดเลือกเป็นกำนัน

สำหรับเอกสารหลักฐานที่สำคัญที่นำไปสู่การไล่ออกในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกำนันตำบลบ้านมุง ในขณะนั้นได้ครบวาระเกษียณราชการในปี 2559 จึงต้องมีการเลือกกำนันแทนคนเก่า และได้มีผู้ใหญ่บ้านจากทั้งหมด 8 หมู่บ้าน โดยมีผู้ลงสมัครคัดเลือกกำนันจำนวน 2 คน คือ นายพิพัก สายคำดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านมุง กับนายชูชีพ น้อยพันธ์ กำนันตำบลบ้านมุง คนปัจจุบัน (ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านมุง)

ภายหลังที่นายชูชีพ น้อยพันธ์ ได้รับคัดเลือกเป็นกำนันบ้านมุง ได้มีเรื่องร้องเรียนไปยังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าการคัดเลือกกำนันครั้งนั้น มีพฤติการณ์จ่ายและรับเงิน เพื่อให้ลงคะแนนผู้ใหญ่บ้านคนใดคนหนึ่งได้รับเลือกเป็นกำนัน ทั้งนี้ อำเภอเนินมะปราง จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผลปรากฏว่า มีพยานหลักฐานเกิดพฤติการณ์ดังกล่าวจริง โดยผู้ใหญ่บ้านได้มีการยอมรับว่ามีการจ่ายเงินรับเงินกันจริง และได้ทำบันทึกเอกสารลงลายมือชื่อในการจ่ายและรับเงิน เสนอต่อนายอำเภอเนินมะปราง ไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน