‘พิพัฒน์’ เล็งชง ศบค. จัดวัคซีนให้ประจวบฯ 1.1 แสนโดส เปิดหัวหินรับต่างชาติ 1 ต.ค. เตรียมเปิดอีก 4 จังหวัด กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, เพชรบุรี และชลบุรี

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2564 ที่ห้องประชุมนเรศดำริห์ เทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการ “หัวหิน รีชาร์จ” และแนวทางการเปิดเทศบาลเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว

โดยมีนายยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.), นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และนายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ร่วมแถลงข่าว ทั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวออนไลน์ผ่านระบบซูมเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแผนการเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในระยะที่ 2 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2564 กำหนดพื้นที่ไว้ 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี และชลบุรี หลังจากที่รัฐบาลได้ร่วมกับภาคเอกชนเปิดพื้นที่ไปแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต, เกาะสมุย, เกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี, เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.กระบี่ และเกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก จ.พังงา

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการนำเสนอแผนการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ให้ ศบค.พิจารณา เพื่อจัดสรรวัคซีนมาให้กับจังหวัดเพิ่มเติม สำหรับฉีดให้ครอบคลุมประชากรตามเป้าหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกันและการท่องเที่ยวที่คล้ายกัน จึงเห็นว่าควรจะมีประชาชนได้รับวัคซีนในภาพรวมของแต่ละจังหวัดไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด

ด้าน นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ภายในเดือน ก.ย.นี้ จะมีประชาชนใน อ.หัวหิน ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม เกินกว่าร้อยละ 70 ของประชากรที่มีทั้งหมด 90,564 คน ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหิน ได้สนับสนุนวัคซีนฉีดประชาชนจำนวน 55,000 โดส ทำให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมพื้นที่ได้เร็วขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายของโครงการหัวหิน รีชาร์จ และหากได้รับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มอีก 110,000 โดส จะทำให้มีประชาชนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรทั้งจังหวัด ซึ่งจะส่งผลดีในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วยิ่งขึ้น

นพ.สุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้รณรงค์ให้ผู้ประกอบการร่วมกันสร้างมาตรฐาน SHA และ SHA+ เพื่อรองรับการเปิดเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ได้

ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับ ททท.มีการประเมินความพร้อมของแต่ละพื้นที่ในการสนับสนุนการเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโควิดให้คนในพื้นที่อย่างน้อยร้อยละ 70 โดยให้ยึดขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐานของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นเกณฑ์หลัก

นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการหารือร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 5 จังหวัดในระยะที่ 2 นั้น ภาคเอกชนส่วนใหญ่มีความพร้อมและยืนยันในการเดินหน้าเปิดให้ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามที่กำหนดไว้ ซึ่ง ททท.เองพร้อมที่จะร่วมผลักดันให้เปิดได้ตามแผนที่วางไว้เช่นเดียวกัน

นายยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดแผนการดำเนินงานอยู่ระหว่างการจัดทำ ในส่วนของ จ.ประจวบฯ มีแนวทางการจัดการพื้นที่ปลอดภัยเพื่อการท่องเที่ยว 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ แผนพัฒนาเมืองระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อตอบสนองพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ แผนการตลาดและการสื่อการตลาด แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง

ส่วน นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน กล่าวว่า อ.หัวหิน เป็นเพียงพื้นที่นำร่องของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ โดยไม่ต้องกักตัว และสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ควบคุม 2 ตำบล ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน คือ ต.หัวหิน และต.หนองแก พื้นที่ 86.36 ตารางกิโลเมตร

นายกรด กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสงค์ เดินทางมาท่องเที่ยวในโครงการนั้น ต้องมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง ได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว อย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทางแต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยวิธี RT-PCR เมื่อมาถึงสนามบิน เดินทางด้วยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เข้าพักในโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เช่นเดียวกัน จากนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องรอผลตรวจในห้องพัก หากผลเป็นลบสามารถเดินทางท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้

นายกรด กล่าวอีกว่า หากประสงค์จะเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ ต้องอยู่พำนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหินอย่างน้อย 14 วันและผ่านการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 ซ้ำอีก 2 ครั้ง โดยต้องมีผลตรวจเป็นลบ

“จากนี้จะได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จัดกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาที่เดินทางมาหัวหิน ในฐานะประธานประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ มั่นใจว่าหากเปิดเมืองหัวหินได้ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ผ่านเกณฑ์ของโครงการ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 1 แสนคน และจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองหัวหิน ทำให้ธุรกิจต่างๆ ในพื้นที่ฟื้นตัวได้อีกครั้ง” นายกรด กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน