เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ร.ต.อ.เอกพงษ์ เดชพรมรัมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีแก๊งมิจฉาชีพก่อเหตุลักขโมยเงินในตู้บริจาคที่วัดบ้านโสน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุมีพระลูกวัดพาไปดูจุดที่ตั้งของตู้บริจาคบริเวณด้านหน้าองค์พระประทานบนศาลาการเปรียญ ซึ่งถูกแก๊งมิจฉาชีพอุ้มไปทุบทำลายที่ป่าละเมาะด้านหลังวัด แล้วขโมยเอาเงินในตู้บริจาค ซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทไป โดยหลวงตาเรือน พระลูกวัด ให้การว่า ก่อนหน้านี้มีพระอายุประมาณ 60 ปี มาขอจำวัด โดยอ้างว่ามาจาก จ.ขอนแก่น จะเดินทางไปธุระที่ จ.ปราจีนบุรี แต่รถเกิดเสียกลางทาง จึงขอจำวัดชั่วคราว พอวันถัดมาก็มีพระอีก 2 รูป อายุประมาณ 30 ปี และ 20 ปี รวมถึงโยมซึ่งเป็นวัยรุ่นชายอีก 1 คน อายุประมาณ 20 ปี ได้มาหาพระรูปแรก พร้อมขออาศัยที่วัดเช่นกัน แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะอยู่กี่วันหลวงตาเรือน ให้การต่อว่า ด้วยความเมตตาและเห็นใจว่าไม่มีที่พัก จึงให้อาศัยอยู่ที่กุฏิหลังวัดซึ่งว่างอยู่ แต่ยอมรับว่าพลาดตรงที่ไม่ได้ขอดูใบสุทธิว่าเป็นพระจริงหรือไม่ กระทั่งเมื่อเช้าวันนี้พระนกแก้ว เดชะธรรมโม พระลูกวัดที่นอนอยู่บนศาลาการเปรียญตื่นมา แต่ไม่เห็นตู้บริจาคตั้งอยู่หน้าองค์พระประทาน สอบถามพระในวัดก็ไม่มีใครเห็น เมื่อเดินไปดูพระ 3 รูปและโยมที่มาขออาศัยอยู่ที่กุฏิด้านหลังก็พบว่าหายไปแล้วหลวงตาเรือน ให้การอีกว่า เมื่อตรวจสอบโดยรอบก็พบตู้บริจาคถูกนำไปทิ้งในป่าละเมาะด้านหลังวัด ในสภาพถูกทุบพังเสียหายและเงินในตู้บริจาคหายไป จึงทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของพระต่างถิ่นที่มาขออาศัยจำวัดทั้ง 3 รูป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและติดตามแก๊งมิจฉาชีพที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจหาลายนิ้วมืออีกครั้ง เพื่อจะเร่งติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน