สธ.เร่งย้ายผู้ป่วย 26 ราย หนีน้ำท่วม รพ.บำเหน็จณรงค์ ชัยภูมิ หลังรถพยาบาลพังเรียบ ต้องปิดบริการ เผยไม่เคยเผชิญน้ำท่วมมา 5 ปีแล้ว
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วม ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานสถานพยาบาล 2 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก คือ รพ.สุโขทัย น้ำท่วมทางเข้าและบริเวณโดยรอบ แต่ยังเปิดให้บริการได้ปกติ และ รพ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมอาคารบริการชั้น 1 สูงประมาณ 80 เซนติเมตร และบริเวณโดยรอบ ทำให้ต้องปิดบริการ
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 9 รายงานว่า ผู้ป่วยใน รพ.มี 40 ราย ส่งกลับบ้าน 14 ราย เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีก 26 รายไปยัง รพ.จัตุรัสที่เป็น รพ.แม่ข่ายดูแลรักษา และส่งต่อไป รพ.เนินสง่า รพ.บ้านเขว้า และ รพ.ชัยภูมิ โดยผู้ป่วย 16 รายอาการไม่รุนแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 3 ราย และผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 7 ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยมูลนิธิต่างๆ เรือ และรถยกสูงของทหาร มีผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า สำหรับการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีห้องเอกซเรย์ ห้องแล็บ ห้องคลอด ไม่สามารถใช้การได้ สามารถย้ายเครื่องมือบางส่วนไปชั้น 2 ได้ คลังเวชภัณฑ์ คลังวัสดุการแพทย์ เครื่องซักผ้า อบแห้ง เครื่องปั่นไฟฟ้าสำรอง 2 เครื่องได้รับความเสียหาย รถพยาบาล 7 คันและรถยนต์ราชการ 4 คันเสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ ได้กำชับให้สถานพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมทุกจังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมตามแผนที่วางไว้ ทั้งการประสานส่งต่อผู้ป่วยและเส้นทางในการเดินทางกรณีต้องปิดสถานพยาบาล การย้ายจุดบริการ รวมทั้งการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลผู้ประสบภัย การดูแลกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวชไม่ให้ขาดยา หากต้องการสิ่งสนับสนุนสามารถติดต่อกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้พบ รพ.ใน 2 จังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คือ สุโขทัย และชัยภูมิ ทั้ง รพ.อำเภอ และ รพ.สต.อีกหลายแห่ง ที่กำลังทยอยรายงานเข้ามา ส่วนมากจะเป็นลักษณะน้ำเอ่อล้น ซึ่งจะมีการรวบรวมสรุปข้อมูลอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินค่าความเสียหาย แต่เบื้องต้นทราบว่า รพ.สุโขทัย ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วน รพ.อำเภอใน จ.ชัยภูมิ ที่น้ำมาไวมาก ไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถฉุกเฉิน รถกระบะ ประมาณ 7 คันออกมาได้ทัน ในส่วนของผู้ป่วยใน มีประมาณ 20 ราย เป็นผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่ถึง 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาการสีเขียว รพ.ได้เคลื่อนย้ายขึ้นไปพักไว้ที่ชั้น 2 ของอาคารในระบบการแยกดูแลรักษาตามมาตรฐานเหมือนเดิม และอยู่ในระหว่างการประเมินสถานการณ์
“ตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ที่ชั้น 2 หมดแล้ว มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลผู้ป่วย และส่งยาพร้อมอาหารให้ ถ้าจะเคลื่อนย้ายต้องใช้เรือ เพราะรถใช้ไม่ได้ รู้สึกเหมือนจะเป็นอ่างเก็บน้ำ แต่น้ำมาไวมาก เขาเลยย้ายไม่ทัน เพราะ รพ.ที่ชัยภูมิ น้ำไม่ท่วมมา 5 ปีแล้ว” นพ.ธงชัย กล่าว
