เล่าระทึกเส้นยาแดงผ่าแปด! น้ำป่าซัดบ้านหายคาตา 4 แม่-ลูกช็อก เกือบพากันหนีออกมาไม่ทัน ติดกลางน้ำ ชาวบ้านมาช่วย ทั้งชีวิตเหลือเสื้อผ้าติดตัวชุดเดียว

วันที่ 27 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า หลังเกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหากท่วมบ้านเรือนประชาชน จากฤทธิ์ของพายุเตี้ยนหมู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งเทือกเขาชัยภูมิ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่หมู่ 12 ต.บ่อรับ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลให้บ้านพังเสียหายไปทั้งหลัง 1 หลัง ศูนย์การเรียนรู้พังเสียหายทั้งหมด รวมทั้งฝายน้ำล้นพังเสียหาย 3 ฝาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ

พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับเทือกเขาชัยภูมิ มีลักษณะเป็นเนินเขา และมีร่องรอยของน้ำป่าพัดพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โดย นายวสันต์ แอร์สูงเนิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 บ้านดงตะเคียน เปิดเผยว่าตลอดคืนวันที่ 24 ก.ย.ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก จนกระทั่งถึงช่วงบ่ายของวันที่ 25 ก.ย. น้ำจากเทือกเขาชัยภูมิได้ไหลหลากลงมาตามลำคลอง

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. มวลน้ำป่าก้อนใหญ่ได้ไหลทะลักลงมาส่งเสียงดังคล้ายกับเสียงเครื่องบิน พัดมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนทำให้อาคารศูนย์เรียนรู้ของหมู่บ้านซึ่งดัดแปลงเป็นสถานที่กักตัวสังเกตอาการของผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ถูกน้ำพัดพังเสียหายทั้งหมด โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้กักตัวอยู่ นอกจากนั้นน้ำป่ายังได้พัดบ้านที่ชาวบ้านอยู่อาศัยพังเสียหายทั้งหลัง รวมทั้งฝายน้ำล้น 3 ฝายพังเสียหายทั้งหมด

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ฝายน้ำล้นที่อยู่ใกล้กับศูนย์เรียนรู้เป็นเสมือนสะพานที่ใช้ข้ามไปพื้นที่การเกษตร ใช้ขนส่งข้าวโพด ยางพารา ออกจากพื้นที่เพื่อนำไปขาย แต่ปัจจุบันน้ำป่าได้พัดพังเสียหายยับเยิน ไม่สามารถข้ามไปอีกฝั่งได้ เบื้องต้น อบต.ได้มาสำรวจความเสียหายแล้ว แต่ตนคิดว่าหากจะรองบประมาณจาก อบต.ก็คงจะอีกนาน ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถนำผลผลิตข้าวโพดออกมาขายได้ จึงอยากจะวิงวอนหากมีหน่วยงานใดที่จะสามารถมาช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนให้ชาวบ้านข้ามไปอีกฝั่งได้

ด้าน นางเอก บุตรดำรง อายุ 43 ปี ผู้ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับลูกสาว 3 คน อายุ 10, 11 และ 12 ปี ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนั่งดูน้ำอยู่บนบ้าน ได้สังเกตเห็นว่าน้ำได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วและใกล้จะล้นฝั่ง จึงได้รีบเก็บทรัพย์สินขึ้นชั้น 2 จากนั้นได้ปิดบ้านและชวนลูกๆ ออกมาอยู่นอกบ้าน

แต่ปรากฏว่าน้ำได้ท่วมเข้ามาในบ้านสูงเกือบหัวเข่า จะหนีขึ้นถนนก็ไม่ทัน จึงได้ไปขึ้นอยู่บนรถอีแต๊ก ระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อมามีชาวบ้านนำรถไถเข้ามารับตนและลูกๆ ออกไป เมื่อออกไปได้สักพักน้ำป่าก้อนใหญ่ก็ไหลทะลักพัดบ้านจนพังจมหายไปกับสายน้ำ ทรัพย์สินต่างๆ เช่น รถจยย. ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จมหายไปกับสายน้ำทั้งหมด

โชคดีที่ตนและลูกๆ ออกมาจากบ้าน หากขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 คงต้องถูกน้ำพัดจมไปกับบ้านอย่างแน่นอน และถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกลางคืนตนและลูกๆ ก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร อาจจะอยู่ในบ้านและถูกน้ำพัดจนเสียชีวิตทั้งหมดก็เป็นได้ ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนมากมีเพียงเสื้อผ้าที่ติดตัวอยู่คนละชุดเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน