จตช.สั่งฟันไม่เลี้ยง ตร.หึงโหด ลากอดีตแฟนกระทืบสาหัส จี้สอบข้อเท็จจริงห้ามเกิน 3 วัน ยันไม่ช่วยเหลือตำรวจประพฤติชั่วเด็ดขาด

จากกรณีปรากฏข่าวเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนต่างๆ ว่า มีตำรวจใช้ชื่อ”จ่าเชิด” ก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกพังบ้าน ข่มขู่ และใช้กำลังทำร้ายอดีตแฟน รวมถึงบุคคลในบ้าน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมเกี่ยวกับการกระทำของตำรวจรายดังกล่าว

อ่านข่าว ตร.หึงโหด บุกบ้านพังประตู ลากกิ๊กสาวกระทืบปางตาย ร้องขอชีวิตยังไม่ยอมหยุด

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2564 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งตรวจสอบเบื้องต้นทันที พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจริง คือ ด.ต.เชิด สงวนศักดิ์ ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองชุมพร เคยเป็นคนขับรถของอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ก่อเหตุเมื่อวันที่ 30 ต.ค. เวลาประมาณ 01.30 น.

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่ทำเป็นออฟฟิศและร้านกาแฟ บริเวณติดกับปั๊มน้ำมัน ริมถนนสายเอเชีย ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ด.ต.เชิด บุกเข้าทุบทำลายได้รับความเสียหาย และมีบุคคลที่เป็นเจ้าของบ้านซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุถูกทำร้ายด้วย ส่วนอดีตแฟนทราบว่าวิ่งหลบหนีไปอยู่ในครัว แต่ถูก ด.ต.เชิด ตามไปทุบตีอย่างรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดปรากฏภาพและเสียงอย่างชัดเจน ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ไว้แล้ว แต่พบว่ายังไม่มีการดำนินการทางวินัย

พล.ต.อ.วิสนุ แจ้งว่า ได้รายงานให้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ทราบ ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งการให้ดำเนินการด้วยความเด็ดขาด ตนจึงสั่งการโดยตรงไปที่ พล.ต.ต.วิฬุรห์ สุวรรณวงศ์ ผบก.จว.ชุมพร ให้รีบดำเนินการทั้งทางอาญา และทางวินัย โดยให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงห้ามเกิน 3 วัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่ปรากฏให้เรียบร้อย โดยสามารถตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และสั่งพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนตาม กฏ ก.ตร.ได้ทันที

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผบ.ตร รวมถึงตน เพิ่งสั่งกำชับในที่ประชุมบริหาร ตร. เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า กรณีที่ตำรวจกระทำผิดความผิดลหุโทษในทางอาญา ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรงได้ โดยเฉพาะหากปรากฏชัดว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา จนเสียเกียรติต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และทำให้สังคมสูญเสียความรู้สึกและความเชื่อมั่นต่อความเป็นตำรวจ ก็สามารถใช้กฏ ก.ตร สั่งพักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้เลย เช่นเดียวกับกรณีสารวัตรที่ใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายประชาชนที่กำแพงเพชร

พล.ต.อ.วิสนุ ย้ำว่า ผบ.ตร ได้สั่งการให้ใช้ความเด็ดขาดกับตำรวจที่กระทำผิดวินัย และสามารถตอบสังคมได้ด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม โดยไม่มีการช่วยเหลือตำรวจที่ประพฤติชั่วเด็ดขาดเพราะเป็นการทำร้ายองค์กรและทำลายขวัญตำรวจดีๆ ที่เหลืออีกจำนวนมาก ทั้งนี้ ได้สั่งการให้จเรตำรวจ รีบลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานไปพร้อมกันด้วยแล้วอีกส่วนหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน