“รอง ผบ.ตร.” วางแผนปราบเด็กแว้นกรุงเก่า รวบได้ 5 คน นัดหมายทางเฟซบุ๊ก

วันที่ 27 ม.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ตร. หรือ ศปข.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.สมพล ใจดี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันเปิดเผยผลการปราบปรามการแข่งรถในทางฯ ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ศาลสั่งริบรถแข่งของกลางทุกคัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีประชาชนร้องเรียนเรื่องปัญหากลุ่มวัยรุ่นออกมาแข่งรถ ในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้งมาก จึงได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนและวางแผนบูรณาการเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตามทางโซเซียล วางกำลังซุ่มดูตามสถานที่เสี่ยงหรือปั๊มน้ำมันในเขตพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน จนได้พบกลุ่มรถจยย.และรถยนต์ ขับมาจอดอยู่ริมถนนสายเอเชีย บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก สาขา สายเอเชีย กม.2 (ขาขึ้นนครสวรรค์)

โดยกลุ่มดังกล่าวมีการปล่อยรถจยย.แข่งกันเป็นคู่ๆ เพื่อแข่งรถในทางบน ถนนสายเอเชียมุ่งหน้า จ.อ่างทอง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตุการณ์ ได้เข้าจับกุม โดยสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่น 5 คน อยู่ภายในรถตู้โตโยต้า หมายเลขทะเบียน 3ฒณ-2634 กทม. ตรวจค้นภายในรถตู้ พบรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และอุปกรณ์ปรับแต่งรถจำนวนมาก

จึงได้นำตัวและตรวจยึดรถตู้รวมทั้งรถจยย.มาที่ สภ.พระอินทร์ราชา ทราบชื่อคือ นายวิชาญ หรือบอม จันทร์แก้ว หรือเป็นที่รู้จักกันในวงการแต่งรถคือ “ช่างบอม รังสิต” เจ้าของร้านแต่งรถฮอนด้าเวฟ ที่มีชื่อเสียงดังย่านรังสิตปทุมธานี นายชาตรี บุตรสงค์กา, นายศุภณัฐ บุญอารีย์, นายอภิสิทธิ์ ยอดนวล และ น.ส.นิชนิภา ดวงแก้ว

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ได้มาตามการนัดหมายจาก นายเอฟ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า “เรียก’เอฟ’คำเดียวหัน(ไม่ซิ่งก็นอน)” เป็นผู้นัดหมายให้มาขับรถเล่นแข่งกัน โดยนัดหมายที่หน้าโลตัส รังสิต ซึ่ง นายวิชาญ เป็นเจ้าของรถตู้ขนรถจยย.มาเพื่อจะแข่งตามที่ นายเอฟ นัดหมาย แต่เมื่อมาถึงปรากฏว่าไม่พบ นายเอฟ กลุ่มผู้ต้องหาจึงขับรถมาจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และได้นำรถจย.มาจับคู่แข่งกันในบริเวณดังกล่าว กระทั่งมาถูกจับกุม พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 รายฟ้องต่อศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา

ต่อมาในศาลแขวงพระนครศรีอยุธยาได้มีคำพิพากษาลงโทษ นายวิชาญ จำคุก 2 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง ส่วนนายชาตรี, นายศุภณัฐ, นายอภิสิทธิ์ และ น.ส.นิชนิภา ลงโทษจำคุก 1 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง และศาลมีคำสั่งพิพากษาริบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถตู้) และรถจักรยานยนต์ของกลางทุกคัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาการแข่งรถในทางฯ เป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เล็งเเห็นถึงความสำคัญจึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงการรวมตัวมั่วสุมออกมาแข่งรถทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ หากท่านพบเบาะแสการแข่งรถในทางหรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งมายัง ศปข.ตร. ได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือสามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน