ศาลยกฟ้อง คดียาเสพติด ‘สุรัช’ เหยื่อซ้อมทรมาน ชี้ประจักษ์พยานโจทก์คือชุดเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมเบิกความขัดแย้งกันหลายปาก วอนขออัยการไม่อุทธรณ์

วันที่ 1 ก.ย.65 นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ศาลกาญจนบุรี มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) รวม 3 นาย เข้าจับกุม นายสุรัช จากบ้านพัก

ต่อมาพบว่านายสุรัช ถูกซ้อมทรมานอาการสาหัส แต่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายสุรัชต่อศาลในข้อหาความผิดต่อ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ความผิดต่อเจ้าพนักงาน และความผิดต่อชีวิต เป็นคดีหมายเลขดำที่ ย132/2563

ศาลพิจารณาเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ในคดีนี้มีเพียงคำเบิกความของพยานประจักษ์โจทก์ที่มาเบิกความยืนยันในลักษณะขัดแย้งกันเป็นพิรุธให้สงสัย ปราศจากพยานหลักฐานอื่นใดเกี่ยวกับการสืบสวนว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือไม่

อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าจับกุมไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 แล้ว และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ

ดังนั้น พยานหลักฐานโจทก์นำสืบจึงยังเป็นที่สงสัยว่านายสุรัชกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ส่งหนังสือถึงพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรีและอัยการสูงสุด ขอให้พนักงานอัยการไม่อุทธรณ์ โดยหนังสือ มีใจความสำคัญว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องแล้วด้วยเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำเบิกความพยานโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ อีกทั้งข้อเท็จจริงในทางพิจารณาคดียังสอดคล้องกับที่นายสุรัชให้ข้อมูลกับทนายความของมูลนิธิฯ

โดยนายสุรัชเชื่อว่าสาเหตุของการเข้าจับกุมตนยามวิกาลน่าจะมาจากที่ตนมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงคนหนึ่งที่ใกล้ชิดสนิทกับตำรวจชุดจับกุม จึงเชื่อว่ามูลเหตุแท้จริงของเหตุการณ์คดีนี้ไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นการกลั่นแกล้งให้นายสุรัชได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องแล้ว เรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการของอัยการ

การอุทธรณ์คดีนี้จึงไม่เป็นประโยชน์อันใดและยังเป็นการซ้ำเติมสร้างความยากลำบากแก่นายสุรัชและครอบครัว ปัจจุบันนายสุรัชต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสมาชิกในครอบครัวเสมือนการดูแลเด็กวัย 8 ปี อันเป็นผลจากการที่นายสุรัชถูกทำร้ายจนอาการสาหัส สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนทำให้เชาน์ปัญญาอยู่ในระดับปัญญาอ่อน (IQ=59) อายุสมองเท่ากับเด็กอายุ 8 ปี 8 เดือน ทำให้ชีวิตนายสุรัชเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้คดีซ้อมทรมานนายสุรัชที่พนักงานสอบสวนสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าจับกุมในวันเกิดเหตุ นั้น ยังคงค้างอยู่ที่พนักงานอัยการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 มากว่า 2 ปีแล้ว จึงขอให้อัยการสูงสุดเร่งรัดให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีนี้โดยเร็วด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน