‘วราวุธ’ รมว.ทส. สั่งกรมทะเลชายฝั่ง เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาภาษีที่ดินกับพื้นที่ป่าชายเลนที่มีเอกสารสิทธิ เพื่อสนับสนุนประชาชนเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน

กรณีประชาชนในพื้นที่จ.สมุทรสงคราม ได้แสดงความวิตกกังวลต่อพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เนื่องจากคำจำกัดความของพื้นที่เกษตรกรรม ตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560 กำหนดว่า การประกอบเกษตรกรรม หมายถึง “การปลูกพืชฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภคหรือจำหน่ายหรือใช้งานในฟาร์มฯ ทำให้พื้นที่ป่าชายเลนในที่ดินกรรมสิทธิ์ของประชาชน ไม่เข้าข่ายนิยามพื้นที่เกษตรกรรม

แต่ถูกประเมินให้เป็นลักษณะที่ดินตามมาตรา 37 (4) แห่งพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เข้าข่ายที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ซึ่งมีอัตราภาษีแพงกว่าพื้นที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ทำให้พื้นที่ป่าชายเลนในที่ดินกรรมสิทธิ์ลดจำนวนลง ต้นไม้ป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ถูกแผ้วถางเพื่อปลูกพืชเกษตรกรรม ทั้งที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ดินเลนไม่เหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรม นั้น

นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ( รรท.อทช.) กล่าวว่า ตนได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และประชาชน จังหวัดสมุทรสงครามเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา และได้ประชุมเพื่อรับฟังปัญหาจากผู้แทนภาคประชาชน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากภาครัฐเกี่ยวกับปัญหาหลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีที่ดินป่าชายเลนกรรมสิทธิ์

ตนได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนโครงการปลูกป่าชายเลนในที่ดินเอกสารสิทธิ์ รวมถึงการสนับสนุนแจกจ่ายกล้าไม้ป่าชายเลนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา และคณะได้ลงพื้นที่ป่าชายเลนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่มีการปรับพื้นที่เพื่อปลูกไม้สนเพื่อประกอบแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไปด้วย

จากปัญหาดังกล่าว นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รู้สึกเป็นห่วงเกรงว่าพื้นที่ป่าชายเลนในอนาคตอาจลดลง หากป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ถูกแผ้วถางเปลี่ยนแปลงสภาพลง จึงมอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. ติดตามกำกับให้ กรม ทช. เร่งดำเนินการเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับนิยามของคำว่า “พื้นที่สีเขียว” โดยเพิ่มให้เป็นประเภทที่ดินที่ไม่เข้าข่ายเป็นที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ ให้พื้นที่ป่าชายเลนของประชาชนดังกล่าว ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี








Advertisement

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีโครงการส่งเสริมปลูกป่าชายเลนในที่ดินเอกสารสิทธิ์ ท้องที่จังหวัดเพชรบุรี สมุทรสงคราม โดยจะสนับสนุนงบประมาณให้ประชาชนปลูกสวนป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิของตน ในอัตราไร่ละ 3,850 บาท และบำรุงแปลงปลูกปีที่ 2 – 3 ไร่ละ 420 บาท และได้ขอตั้งงบประมาณในจังหวัดชายฝั่งอื่นในปีต่อไป ซึ่งจะช่วยป้องกันรักษาพื้นที่ป่าชายเลนไม่ให้ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเนื่องจากอัตราภาษีที่ดิน

นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทะเลฯ

 

อีกทั้ง กรม ทช. ยังมีพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลนที่พร้อมแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่ง ซึ่งสามารถนำไปปลูกในพื้นที่ของตน เพื่อประโยชน์ด้านภาษีที่ดิน ทั้งนี้ กรม ทช. ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน 3 แสนไร่ ภายใน 10 ปี ภายใต้การดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ซึ่งอาศัยความร่วมมือจากองค์กรภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนในการดำเนินงานอีกด้วย “นายอภิชัย กล่าว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน