วันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทำบุญที่วัดโปรดสัตว์ ต.ขนอนหลวง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบเศียรพระพุทธรูปเก่าแก่มีรากของต้นโพธิ์ล้อมเอาไว้ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายกรธัช วัชระจิรากร ประธานกลุ่ม อโยธยากรุ๊ป
ที่วัดดังกล่าวพบต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปี อยู่บริเวณหน้าโบสถ์ของวัด ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์มีเศียรพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดสูงประมาณ 1 ฟุต กว้างประมาณ 20 ซม. ถูกรากของต้นโพธิ์หุ้มส่วนของใบหน้าด้านซ้าย ด้าน พระปลัดชม อลีนจิตฺโต อายุ 85 ปี รองเจ้าอาวาส กล่าวว่า เศียรพระพุทธรูปที่พบเป็นเศียรพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์คู่กับพระประธานในโบสถ์ เมื่อปีพ.ศ.2475 ทางวัดได้บูรณะโบสถ์และพระประธาน ระหว่างการบูรณะเศียรพระเกิดตกลงมาเกิดความเสียหาย จึงได้นำเศียรพระมาตั้งเอาไว้ที่โคนต้นโพธิ์ตามความเชื่อของโบราณ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันรากของต้นโพธิ์ขยายจนห่อหุ้มเศียรพระดังที่เห็น ส่วนต้นโพธิ์พบเห็นมาตั้งแต่เด็กอายุร้ายกว่าปี
ขณะที่นายกรธัช วัชระจิรากร จาการดูรูปลักษณะและตรวจสอบประวัติของวัด เศียรพระพุทธรูปสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง สำหรับโปรดสัตว์ตั้งอยู่ใน ต.ขนอน นี้เป็นวัดเก่าแก่มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ใน ต.ขนอนหลวง ที่เรียกว่าขอนหลวง เพราะคำว่าขนอนหลวง ในสมัยกรุงศรีอยุธยา การเข้ามาทำการค้า จะต้องผ่านด่านเก็บภาษีปากแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนเข้ากรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่ควรค่าแก่การศึกษายังหลวงเหลือ โบราณสถานโบราณวัตถุให้เห็น แต่ไม่ควรที่จะมาลูบมาคลำเศรียรพระกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้
ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามข้อมูลเรื่องพระประธานอยู่ในพระอุโบสถ ด.ต.วิฑูรย์ สืบเชื้อ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับกลุ่มเพื่อนได้เข้ามาในโบสถ์พร้อมกับเปิดภาพในโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายมาจากฝั่งตรงข้ามวัดพบว่าเป็นภาพ ลำแสงสีดำพุ่งขึ้นจากเจดีย์ด้านหลังโบสถ์ เป็นลำแสงขนาดเล็กแล้วบานพุ่งขึ้นทองฟ้ามองเห็นได้อย่างชัดเจน
ด.ต.วิฑูรย์ เปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวตนและเพื่อนได้ถ่ายภาพไว้เมื่อเวลา 20.30 น. ขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ริมแม่น้ำที่ร้านอาหาร ฝั่งตรงข้ามกับวัดโปรดสัตว์ ตนสังเกตเห็นลำแสงสีดำจึงได้ถ่ายภาพและคลิปเอาไว้และสอบถามเด็กเสิร์ฟร้านอาหารว่าเป็นลำแสงอะไร ทุกคนไม่ทราบและไม่เคยเห็นมาก่อน มองเห็นลำแสงอยู่ได้ประมาณ 1 ชม.แล้วหายไป ด้วยความสงสัยจึงรีบเช็คบิลแล้วชวนเพื่อนขับรถยนต์เข้ามาที่วัดพิสูจน์พบเห็นเจดีย์ปละวัดปิดไฟมืด ไม่พบความผิดปกติอะไรและบริเวณโดยรอบของวัดไม่มีการจัดงานใดๆ จึงรู้สึกแปลกใจมาก และกลับมาพิสูจน์ในตอนกลางวัน เพื่อพิสูจน์อีกครั้ง เชื่อว่าต้องเป็นแสงพลังงานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแห่งนี้
สำหรับพระประธาน และเจดีย์ ของวัดโปรดสัตว์ มีความศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ขอพร จะสมความปรารถนา เคยมีคนร้ายงัดประตูโบสถ์เพื่อเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินภายในโบสถ์ซึ่งมีภาพวงจรปิดจับภาพเอาไวได้ ระหว่างที่คนร้ายเดินสำรวจภายในโบสถ์จู่ๆ ก็หยุดนิ่งแล้ววิ่งหนีออกไปจากโบสถ์ ไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรไป สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและเชื่อกันว่าเป็นความอาถรรพ์เพื่อปกป้องทรัพย์ของวัด
