วันที่ 26 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ภาปณัฐ สุขอนันต์ และนายเจษฎา หาริแสง นักธุรกิจและนักศึกษาปริญญาโท อยู่บ้านเลขที่ 59/525 โครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม เดินทางไปที่ ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครปฐม ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปถึงนายภิญโญ ประกอบผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เนื่องจากบ้านตนเองโดนโจรขึ้นบ้านแต่คดีไม่คืบ จับโจรไม่ได้ และโครงการหมู่บ้านเก็บค่าส่วนกลางล่วงหน้า 2 ปี แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบทุกกรณี

น.ส.ภาปณัฐ เผยว่า เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามาลักทรัพย์ในบ้าน ที่ตนซื้อไว้เตรียมเป็นเรือนหอ ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปมี พระกริ่งวัดสุทัศน์ อยู่ 1 องค์ ซึ่งมีแค่มี 35 องค์ ในประเทศไทย เป็นมรดกตกทอดมาจากครอบครัว และหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม นาฬิกา และทองรูปพรรณ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม และกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานตามแนวสืบสวนไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้

จากนั้นตนจึงไปติดต่อไปยังเจ้าของโครงการเกี่ยวกับเรื่องการรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน ด้านระบบการรักษาความปลอดภัย โดยมีการจ่ายค่าส่วนกลางให้กลับโครงการไปก่อนเข้าอยู่ล่วงหน้า 2 ปี โดยผู้เสียหายได้มีการพูดคุยกับทาง (เจ้าของโครงการ) เบื้องต้นไป เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เวลาโดยประมาณ 17.00 น. มีการรับปากและแจ้งไว้ว่าจะนัดมาคุยไกล่เกลี่ยเรื่องดังกล่าวภายใน 7 วัน แต่เมื่อใกล้วันก็เพิกแฉย ผู้เสียหายก็ได้ติดตามกับทางเจ้าหน้าที่ของโครงการกลับได้ ขอนัดคุยอีกครั้ง วันที่ 15 ก.พ. เวลา 14.00 น ที่สำนักงานโครงการ โดยทางโครงการได้ส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยและสอบถามเกี่ยวกับปัญหา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด แจ้งเพียงว่า ไม่มีอำนาจการตัดสินใจต้องรอทางเจ้าของโครงการสรุป

เมื่อติดตามทวงถามเกี่ยวกับเอกสารของบริษัทรักษาความปลอดภัย ที่เข้ามาดูแลโครงการหมู่บ้าน ก็ไม่มีข้อสรุป เรื่องการชดเชยค่าสินไหมทดแทนทางเจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่า ขอเป็นวันที่ 19 ก.พ. ตนจึงได้ร้องขอความโดยการยื่นหนังสือถึงรองผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะ ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ น.ส.ภาปณัฐ ได้ติดป้ายประกาศขายเรือนหอไว้ที่หน้าบ้านด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน