จากกรณียายประดับ จันทร์อ่วม อายุ 72 ปี อาชีพขายน้ำพริก ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ว่าทำลอตเตอรี่งวดวันที่ 1 ธ.ค.60 หมายเลข 451005 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท หายหลังจากไปช่วยงานวัดบางขวาก เมื่อวันที่ 29 พ.ย.60 ต่อมาได้มี น.ส.พรพิพย์ ปาลวงษ์ หรือ เม้ง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเครือญาติกันได้นำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 451005 นำไปขึ้นเงินที่กองสลากว่าเป็นคนถูกรางวัลที่ 1 หลังจากนั้นตำรวจได้ออกหมายจับ น.ส.พรพิพย์ ข้อหายักยอกทรัพย์ แต่กลับพบว่า น.ส.พรพิพย์ หลบหนีไปต่างประเทศ และเงินรางวัล 6 ล้านก็หมดแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว หวยหายโผล่อีก! ยายวัย 72 โร่ร้องกองปราบฯ ทำโชค 6 ล้านหายกลางวัด แต่กลับมีคนเอาไปขึ้นเงินแล้ว อ่านข่าว ครอบครัวยายทำหวย 6 ล้านหายสุดเศร้า หลังรู้ข่าวสาวข้างบ้านที่เอาไปขึ้นรางวัลใช้เงินหมดแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของยายประดับ ซึ่งไม่พบยาย พบเพียงนางประยูร แพร่งกระโทก อายุ 49 ปี ลูกสาวของยายประดับ ที่นั่งร้อยพวงมาลัยที่บ้านอยู่คนเดียว โดยเปิดเผยว่า แม่ของตนไปอยู่กับหลานชายที่ กทม. ตั้งแต่เกิดเรื่องแล้ว ซึ่งแม่บอกว่ายังคงทำใจไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงไม่อยากที่จะเห็นหน้าคู่กรีซึ่งเป็นเหมือนญาติห่างๆ กันด้วย เพราะที่ผ่านมาก็รู้จักมักคุ้นกันดี แม่ตนก็ไปช่วยงานที่บ้านเป็นประจำ เวลามีงานแต่ง งานบวช ไม่คิดว่าจะมาทำกันแบบนี้ ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคดี ตนก็ทราบว่ามีการออกหมายจับ น.ส.พรทิพย์ และผลเบื้องต้นจากการรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าลอตเตอรี่เป็นของยายประดับ ซึ่งตนได้แจ้งบอกแม่ไปแล้ว แต่ก็รู้สึกเสียใจ และเสียความรู้สึกกับการทำงานของตำรวจชุดแรกมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เงินก็หมด และ น.ส.พรทิพย์ ก็ไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

นางประยูร กล่าวต่อทั้งน้ำตาคลอว่า ตอนนี้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งแม่ของตนนั้นเหมือนมีบุญพาวาสนาได้ถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ก็ไม่ได้ใช้เงิน สิ่งที่ตนและครอบครัวยังคลางแคลงใจคือตอนที่แม่ตนไปแจ้งความเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.60 ต่อมาวันที่ี 3 ธ.ค.60 พนักงานสอบสวน สภ.สามชุก ชุดแรกที่ทำคดี ได้เชิญแม่ตนและคู่กณีมาเจรจากัน ซึ่งคู่กรณีก็ได้มอบลอตเตอรี่ฉบับที่ถูกรางวัลที่ 1 ให้กับพนักงานสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนได้นำไปใส่ซองสีขาว พร้อมกับให้แม่ตนและคู่กรณีเซ็นชื่อกำกับไว้ ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทราบข่าวว่าได้มีการคืนลอตเตอรี่ให้แม่ จึงได้เดินทางเพื่อจะไปรับคืน เพราะเข้าใจว่าน่าจะมีการตกลงกันได้แล้ว แต่เมื่อไปถึงโรงพักตำรวจกลับบอกว่าได้คืนลอตเตอรี่ให้ น.ส.พรทิพย์ไปแล้ว

พวกตนก็งงมากว่ามันเป็นของกลางในคดีและมีการเซ็นชื่อกำกับไว้แล้ว และตำรวจคืนไปได้อย่างไรโดยไม่แจ้งพวกตน และต่อมาน.ส.พรทิพย์ ได้นำไปขึ้นเงินเมื่อบ่ายวันที่ 4 ธ.ค.60 ตนจึงได้ร้องขอให้ตำรวจทำเรื่องไประงับการจ่ายเงินที่กองสลาก ซึ่งตำรวจก็รับปากว่าจะเร่งทำเรื่องไป ตนพร้อมด้วยครอบครัวได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่กองสลาก ก็ได้รับการแนะนำให้รีบส่งเรื่องมาด่วน และจะทำการระงับการจ่ายเงินให้ แต่เจ้าหน้าที่รอทั้งวันก็ไม่มีการทำเรื่องไป จนกระทั่ง น.ส.พรทิพย์นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน และเบิกเงินจากบัญชีไปจนหมดแล้ว จนเป็นคดีความข้อพิพาทกันถึงทุกวันนี้ ส่วนวันนี้ด้านคดีตนก็ยังยืนยันที่จะสู้คดีจนถึงที่สุด ถึงแม้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะหมดไป แต่หากฝ่ายที่เก็บลอตเตอรี่ของคนอื่นได้แล้วไม่คืน ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายตามข้อกล่าวหา เพราะถือว่าเป็นคนโลภ ต้องได้รับผลการกระทำที่ตัวเองได้ก่อไว้ และดำเนินคดีว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน