เมื่วันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเฟซบุ๊กชื่อ “หมู ปั้นดาว” ได้โพสต์ข้อความว่า “ใครทำอะไรไว้ ช่วยมาเอาออกไปด้วย มีเด็กวิ่งเล่นสะดุดล้มปากแตกหนึ่งรายแล้ว ขอแค่คนเดียวพอน่ะ หรือว่าไม่ใช่ลูกหลานคุณ” พร้อมภาพมือชี้ที่หัวน็อตหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งโผล่จากทางเดินประมาณ 2 เซนติเมตร ใกล้บริเวณจุดนั่งชมวิว บนสะพานสราญวิถี ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญของจ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเดินเล่นตลอดทั้งวัน
ส่วนในช่วงเช้ามืดมีผู้สูงอายุใช้ทางเดินบนสะพานเป็นที่ออกกำลังกาย และช่วงเย็นถึงค่ำเป็นเวลาที่ชาวประจวบฯ จะพาครอบครัวพาเด็กเล็กมาเดินเล่นและชมวิว โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตามพิกัดที่ระบุ พบว่าน็อตตัวดังกล่าวอยู่บนทางเดินและบริเวณหัวมุมจุดชมวิวและเป็นลานกว้างใช้สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ โดยหัวน็อตขนาดหกเหลี่ยมโผล่ให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งเด็กๆ ที่มาวิ่งเล่นอาจสะดุดหกล้มได้
นายสุเทพ นาคทั่ง อายุ 47 ปี กลุ่มจิตอาสาทำความสะอาดชายหาดอ่าวประจวบ ให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านกลุ่มจิตอาสาได้ร่วมตัวช่วยกันเก็บขยะที่ถูกทิ้งไว้ ตั้งแต่สะพานสราญวิถีจนถึงเขาช่องกระจก โดยเฉพาะขยะริมทะเล ทำต่อเนื่องมากว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาไร้หน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งน่าจะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง แต่พบขยะเกลื่อนกลาด ทั้งพลาสติก ขวดแก้ว เศษแก้วแตก ตนเห็นหลายฝ่ายพยายามส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่กลับปล่อยปละละเลยเรื่องขยะ น่าอายที่บางครั้งต้องเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมาช่วยเก็บขยะทิ้งแทน
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ล่าสุดพวกตนได้ช่วยกันเก็บขยะที่บริเวณสะพานสราญวิถี พบว่ามีน็อตโผล่มาและมีเด็กได้รับบาดเจ็บจากการสะดุดน๊อตจนหกล้มไปแล้ว 1 ราย โดยตรวจสอบพบว่าน็อตดังกล่าว เหลือจากงานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าวและงานกาชาด เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการติดตั้งแสงไฟส่องสว่างที่ประกอบด้วยหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์จำนวนมาก ซึ่งเป็นเสาไฟตั้งสูงคล้ายไฟงานวัด โดยเจาะน็อตยึดกับพื้นสะพานที่เป็นทางเดิน แต่หลังเสร็จงาน ผู้รับเหมากลับไม่เคลียร์ถนนให้อยู่ในสภาพเดิม พบมีน็อตตกค้างจนเกิดอันตรายดังกล่าว หากไม่รีบแก้ไขเกรงว่าจะมีเด็กและนักท่องเที่ยวเดินสะดุดอีกหลายราย
