สาวโผล่ให้ข้อมูล หลังสงสัยกระดูกที่พบเป็นอดีตสามี ปมใหม่หายตัว คนรู้จักเจอครั้งสุดท้ายปลายปี
จากกรณีพบกระดูกเชิงกรานของมนุษย์ สภาพมีร่องรอยถูกตัดด้วยของมีคม ภายในพงหญ้า ติดถนนทางด่วนอุดรรัถยา เชื่อมต่อถนนทางหลวงหมาย 9 บางปะอิน-บางบัวทอง มุ่งหน้าบางบัวทอง กม.ที่ 77 หมู่ 3 ต.โพแตง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดที่พบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมนุษย์ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมาประมาณ 50 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ผงะเจอเพิ่มอีก กระดูกมนุษย์ จุดพบกะโหลก แฟนให้ปากคำสามีหาย 2 เดือน ระบุจุดใส่ฟันปลอม
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 29 มี.ค.67 ที่ สภ.ช้างใหญ่ จ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูล เนื่องจากสงสัยว่าชิ้นส่วนของมนุษย์ที่พบอาจจะเป็นอดีตสามีที่หายตัวไป
น.ส.ดา กล่าวว่า อดีตสามีที่หายตัวไปคือ นายแสงเพชร วิไสสุข อายุ 27 ปี สัญชาติลาว มีอาชีพก่อสร้าง ก่อนหน้านี้เคยคบกันหาอยู่ด้วยกัน 10 ปี มีลูกชายด้วยกัน ปัจจุบันอายุ 6 ปี ระยะหลังมีปากเสียงกันและเคยถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้ขอแยกทางเมื่อปี 2565 แต่ยังพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่ทราบว่าหายตัวไปเมื่อไร
จนปลายปี 66 มีญาติที่ประเทศลาวติดต่อตนมาให้ช่วยตามหา เพราะไม่สามารถติดต่อได้ จึงช่วยสอบถามคนที่รู้จักทราบว่า พบเห็นครั้งสุดท้ายวันที่ 25 ธ.ค.66 ไปกับชายไทย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทขี่รถจยย.ไปด้วยกัน จนล่าสุดตนเห็นมีข่าวพบชิ้นส่วนมนุษย์จึงได้สอบถามกับกู้ภัย และมาติดต่อกับตำรวจ ลักษณะที่จำได้อดีตสามีมีประวัติการทำฟัน ใส่ฟันปลอม นอกจากนี้ตนไม่ทราบรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับอดีตสามีเลย เพราะไม่ติดต่อกันหรือเกี่ยวข้องอะไรกันตั้งแต่หย่าร้าง และทราบจากคนใกล้ชิดว่าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ด้าน พ.ต.อ.ณัลถวัศน์ อ่อนโยน ผกก.สภ.ช้างใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ และชิ้นส่วนกระดูกเชิงกราน ได้นำกำลังตำรวจ 30 นาย เดินปูพรมบริเวณที่เกิดเหตุ ก็พบชิ้นส่วนกระดูกคล้ายมนุษย์อีก 2 ชิ้น จึงส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี เพื่อพิสูจน์ว่าใช่กระดูกของมนุษย์หรือไม่
นอกจากนี้ยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายพื้นที่ในการตรวจหาชิ้นส่วนของมนุษย์เพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานขอความร่วมมือกับผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ถ้าหากพบชิ้นส่วนของมนุษย์เพิ่มเติมอีกให้แจ้งตำรวจทันที
