ถูกดลใจไปแม่น้ำตรัง ตะลึงเจอเรือตะเคียน เผยเรื่องประหลาดระหว่างยก เฮถูกหวยหลายงวด

วันที่ 15 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 บ้านสันตัง ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายประดิษฐ์ ศรีบุญนาค หรือหมอสิทธิ์ อายุ 65 ปี ได้นำเอาเรือไม้ตะเคียนทองโบราณ ขนาดความยาว 8 เมตร กว้าง 1 เมตร ลักษณะเป็นไม้ตะเคียนทองทั้งต้น มาขุดและเซาะเนื้อไม้ให้กลายเป็นลำเรือ ไม่ใช่เป็นการนำไม้มาต่อ คาดว่าน่าจะเรียกกันว่าเรือหางโทง หรือเรือพันท้ายนรสิงห์ อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี มาตั้งไว้บริเวณลานดินหน้าบ้าน หลังจากที่ นายสุพิศ จิตตรา อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.หนองตรุด ได้มีความรู้สึกผิดปกติกับตัวเอง มีอาการวูบวาบ คล้ายมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดดลจิตดลใจให้ไปที่บริเวณแม่น้ำตรัง ซึ่งเป็นสายปากคลองไพ หมู่ 6 บ้านสันตัง เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา

จนทำให้ตอนนั้น นายสุพิศ ได้เดินเท้าจากบ้านไปที่จุดบริเวณดังกล่าวห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กม. จนพบเห็นว่ามีวัตถุอย่างหนึ่งเป็นสีดำโผล่เหนือผิวน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งอยู่ห่างจากตลิ่งไปในแม่น้ำประมาณ 4 เมตร จึงลงไปดูก่อนจะพบว่าเป็นเรือไม้ตะเคียนทองโบราณดังกล่าว และจึงได้นำพามาตั้งไว้ บริเวณหน้าบ้าน

ภายหลังจากพบเจอ ปรากฏว่ามีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่ทราบข่าวมาแห่ดู กระทั่งมีคนที่มาดูเห็นเป็นเลขสีแดง 481 ติดอยู่ที่ลำเรือ ก่อนจะนำไปเสี่ยงโชค และถูกรางวัลงวดวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา และวันนี้มีชาวบ้านมาดูเรือ ก่อนจะนำผ้าสีมาผูกไว้บนหัวเรือ และนำดอกไม้ พานเงิน และเหรียญ มาตั้งไว้ให้ในลำเรือ รวมทั้งจุดธูปเทียนบูชา และชาวบ้านบางส่วนได้นำแป้งมาโรยตามลำเรือ เพื่อหวังว่าจะได้พบเห็นเลขเด็ดเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งในงวดนี้เลขที่จะมีการนำไปเสี่ยงโชค คือ 065 , 329

นายสุพิศ เล่าว่า เที่ยงวันที่ 21 มี.ค. ร่างกายตนมีอาการวูบๆ วาบๆ ใจสั่นๆ หายใจไม่สะดวก เหมือนถูกอะไรมาดลจิตดลใจให้ไปที่แม่น้ำตรังในทันที จึงได้เดินจากบ้านระยะทาง 1 กม. เพียงคนเดียว โดยไปลงเรือซึ่งเป็นของตนที่เทียบอยู่ริมแม่น้ำตรัง ก่อนจะพายเรือไปที่จุดดังกล่าว ห่างจากตลิ่งไปในแม่น้ำประมาณ 4 เมตร เห็นว่ามีวัตถุบางอย่างสีดำ คล้ายขอนไม้โผล่เหนือผิวน้ำมาเล็กน้อย ประกอบกับว่าช่วงนี้เป็นหน้าแล้งน้ำภายในลำคลองก็ลดระดับลงอย่างมาก ลึกประมาณหัวเข่า ก่อนจะพบว่าเป็นท้องเรือคว่ำอยู่ในแม่น้ำ และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ หลังจากพบเห็นว่าเป็นเรือ อาการที่เป็นก่อนหน้านั้นทั้งวูบๆ วาบๆ กลับหายเป็นปลิดทิ้งในทันที








Advertisement

หลังจากนั้นตนได้ลงไปในน้ำ เพื่อขุดเรือดังกล่าวที่คว่ำอยู่ ที่มีดินทรายอยู่ในลำเรือ เพื่อให้ลอยขึ้นมา แต่ปรากฏว่ายิ่งขุดออกทรายและดินกลับถูกกระแสน้ำซัดเข้าไปในลำเรือเหมือนเดิม จนเกิดความท้อแท้ เลยได้อธิษฐานถึงเจ้าของเรือ รวมไปถึงแม่ย่านางเรือว่าขอให้เรือลอยขึ้น จะได้ไม่ต้องจมอยู่ในน้ำ หลังเสร็จจึงได้ไปจับบริเวณแคมเรือเพื่อดึงขึ้นปรากฏว่าเรือที่หนัก สามารถดึงขึ้นและพลิกให้ลอยขึ้นมาเสมือนกับว่ามีคนมาช่วยพลิก

ขณะที่ นายชาลี แท่งทอง อายุ 55 ปี ผู้ที่ไปช่วยยกลำเรือดังกล่าวขึ้นจากน้ำ กล่าวว่า หลังจากที่ นายสุพิศ พลิกเรือดังกล่าวให้ลอยได้แล้ว จึงได้ขอช่วยตนให้มานำเรือกลับเข้าฝั่ง ขณะนั้นเรือได้ลอยน้ำล่องมาอย่างเบา ก่อนจะช่วยกันยกใส่หางลากพ่วงมาไว้ที่บ้าน จากการสันนิษฐานประกอบกับข้อมูล ทราบว่า ในอดีตปู่ย่าตายาย เล่าว่าภายในแม่น้ำตรัง จะมีท่าเรือตาแสง และท่าเรืออื่นๆ และจะมีเรือสินค้าต่างๆ ล่องมาขายสินค้า จึงคิดว่าเรือดังกล่าวเป็นเรือสินค้า หรือของพ่อค้าแม่ค้าที่ล่องเรือมาขายของในสมัยอดีต

ส่วน นายประดิษฐ์ กล่าวว่า หลังจากได้เอาเรือมาตั้งไว้ที่บ้าน ก็ได้มีการอธิษฐานให้ตนถูกหวย หากถูกก็จะสร้างศาลาให้เรือลำนี้อยู่โดยไม่ถูกแดดถูกฝน แต่ก็ยังอยากให้กรมศิลปากร หรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ และถ้าอยากจะเอาไปศึกษาก็ยินดี โดยชาวบ้านจำนวนมากได้เข้ามาดูกัน จนมีคนเห็นเลขตัวตรงสีแดง ถูกหวยงวดที่แล้วด้วยจากเรือลำนี้ ส่วนตัวสันนิษฐานว่า ตนอายุ 65 ปีแล้ว ท้ายของเรือ ที่ชูโด่งขึ้นมาลักษณะเช่นนี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ในอดีตภายในแม่น้ำตรังก็มีการพบเจอเรือมาเป็น 10 ลำ แต่ไม่มีเรือลำไหนมีท้ายเรือโด่งเช่นนี้ จึงสันนิษฐานได้ว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี และน่าจะอยู่ในช่วงก่อนยุคกรุงศรีอยุธยา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน