หนุ่ม 48 คลั่ง ถือมีดบุกบ้านเมียเก่าวัย 23 ฟันหัวปู่เลือดอาบ เปิดแชตขู่ฆ่ายกครัว ผู้เสียหายเผยเคยอยู่กินกัน 3 ปี ทั้งติดยาค้ายา ถูกทำร้ายร่างกายประจำ

วันที่ 16 เม.ย. 2567 ร.ต.อ.ปรัชญา ทาบ้านฆ้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีดและขวาน มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ที่บ้านหลังหนึ่ง ม.11 ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จึงแจ้งตำรวจสายตรวจตำบลท่าขุนรามไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ บนพื้นข้างโต๊ะหินอ่อนพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาว ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายไพบุญ บุญประเสริฐ อายุ 48 ปี อดีตสามีของ น.ส.รุ่งนภา อายุ 23 ปี ซึ่งมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 7 เดือนเศษ

นายไพบุญ ผู้ก่อเหตุ ถูกชาวบ้านจับกุมไว้ได้

เบื้องต้นทราบว่า นายไพบุญเดินสะพายกระเป๋าสีน้ำตาล ในมือถือขวาน และมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 5 นิ้ว เดินเข้าไปเปิดประตูด้านข้างของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.รุ่งนภา กำลังให้นมลูกชายอยู่

เมื่อเห็นนายไพบุญเปิดประตูเข้ามาและถืออาวุธมาด้วย น.ส.รุ่งนภา ตกใจ จึงอุ้มลูกวิ่งไปหานายชุม ยะเดช และนางสีนวน ซึ่งเป็นปู่และย่าของ น.ส.รุ่งนภา ที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นนายไพบุญได้ตะโกนเสียงดังว่า “กีดกันกูนักใช่ไหม” ก่อนใช้มีดฟันไปที่หัวของนายชุมจนเลือดไหลอาบเต็มใบหน้า

จากนั้นมีการยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาจนทำให้นายชุมถูกนายไพบุญใช้อาวุธมีดฟันไปที่ลำตัวและใบหน้าอีกหลายแผล ส่วนนางสีนวนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีรอยถลอกบริเวณขาและแขนจากการเข้าห้ามปราม

ปู่ถูกฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส








Advertisement

ต่อมาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้พากันเข้ามาช่วยเหลือ และจับตัวนายนายไพบุญเอาไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอม เนื่องจากผู้ก่อเหตุต่อสู้ขัดขืน ก่อนตำรวจจะเข้ามาจับกุมนายไพบุญไปสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนนายชุม และนางสีนวน ผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำบาดแผลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร โดยพบว่านายชุมมีอาการค่อนข้างสาหัสจากการถูกของมีคมฟันและแทงบริเวณศีรษะและลำตัว เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่าอาการปลอดภัยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายไพบุญได้โทรหาและส่งข้อความข่มขู่อดีตภรรยาเป็นจำนวนมาก กล่าวหาว่าปู่และย่าของอดีตภรรยากีดกันไม่ให้เจอลูก โดยขู่จะบุกมาบ้านและจะฆ่าให้หมด กระทั่งบุกเข้ามาก่อเหตุ

น.ส.รุ่งนภา อดีตภรรยานายไพบุญ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่นาทีนายไพบุญโทรมาหาบอกให้อุ้มลูกออกมาหาที่ร้านค้าหน้าบ้าน ตนไม่มั่นใจจึงไม่ออกไป เพราะเมื่อวานนี้เขาได้โทรมาขู่จะฆ่า ตนเคยอยู่กินกับนายไพบุญมากว่า 3 ปี แต่ถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง นายไพบุญมีพฤติกรรมทั้งเสพยาเสพติดและค้ายาด้วย ตนทนไม่ไหวจึงแยกทางมาหลายเดือนแล้ว

น.ส.รุ่งนภา กล่าวต่อว่า นายไพบุญเคยมาหาลูกเป็นบางครั้ง ถ้ามาดีก็ไม่ว่า แต่กลับข่มขู่สารพัด ตนจึงไม่อยากให้มา เพราะกลัวว่าปู่และย่าจะไม่ปลอดภัย จนมาเกิดเหตุในวันนี้ ตนอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายไพบุญให้ถึงที่สุด เนื่องจากบุกเข้ามาทำร้ายปู่และย่าของตนถึงในบ้าน ไม่รู้ว่านอกจากมีดแล้วในรถเขาจะมีปืนอีกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายไพบุญเคยก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2566 ช่วงนั้น น.ส.รุ่งนภา เคยร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้ช่วยเหลือตนเองและลูกชาย วัย 2 เดือน เนื่องจากถูกสามีที่มีพฤติกรรมเสพยาและค้ายาเสพติด ทำร้ายร่างกายและขู่จะฆ่า

สภ.เมืองกำแพงเพชร และ พม.กำแพงเพชร ได้ช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่พบตัวนายไพบุญ จากนั้นได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงจากบุคคลในครอบครัว พ.ศ.2550 รวมถึงการทำร้ายร่างกายเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน