คดีเงินวัดอลเวง หาย 2.9 แสนบาท นายอำเภอร่อนหนังสือ บอกนับผิด ให้ข่าวเท็จระวังถูกฟ้อง ชาวบ้านไม่พอใจ เตรียมร้องผู้ว่าฯ อุดรธานี
วันที่ 4 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.รายงานว่า ภายหลังมีชาวบ้านบ้านทมนางาม ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ร้องเรียนกรณีการจัดงานผ้าป่าสามัคคีฉลองพระพุทธรูปวัดบัวระพา บ้านทมนางาม เมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,992,865 บาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายมหรสพและค่าใช้จ่ายในงาน เหลือเงินจำนวน 1,158,645 บาท เตรียมเอาเงินไปฝากธนาคารปรากฏว่า มีเงินหายไป จำนวน 298,645 บาท
โดยชาวบ้านสงสัยเรื่องเงินหาย จึงอยากให้นายอำเภอโนนสะอาดเข้าไปตรวจสอบ และสงสัยผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งกับพวกที่เข้ามาดูแลและจัดการเงินในส่วนนี้ โดยเงินที่กรรมการวัดนับช่วยกันหลายรอบกับยอดเงินที่ไปฝากธนาคารไม่ตรงกัน หายไปเเกือบ 300,000 บาท จนต้องมีการดื่มน้ำสาบานกันทั้งกรรมการและพระสงฆ์ด้วย
ด้านนายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หลังทราบเรื่องได้สั่งการมอบหมายให้ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดร พร้อมนายชวิส ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงกับชาวบ้านในวันที่ 8 พ.ค.นี้
แต่ปรากฏว่าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายอำเภอเคลียร์เรื่องดังกล่าวจบแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยนายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด ได้เดินทางมาที่วัดบัวระพา เรียกกรรมการวัด ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาชี้แจงเรื่องเงินวัดหาย โดยไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปรับฟังด้วย ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
ต่อมานายอำเภอโนนสะอาดได้ทำหนังสือราชการชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ได้ข้อสรุปว่า เงินของวัดที่ได้มีกรรมการของวัดและบุคคลที่ทำหน้าที่นับเงินนั้น ได้ทำการนับเงินและนำส่งให้เจ้าอาวาสวัดเก็บ เพื่อนำไปฝากธนาคารฯ จากการตรวจสอบยอดจำนวนเงินที่นับกับจำนวนบัญชีที่สรุปยอดจำนวนเงินที่นำมาฝากธนาคารนั้น มียอดไม่ตรงกัน
ภายหลังตรวจสอบแล้วว่าการนับเงินและการนำส่งเงินฝากธนาคารนั้น มียอดที่ถูกต้องและเป็นจริงไม่มีเงินของวัดสูญหายแต่อย่างใด ทุกฝ่ายที่ประชุมหารือกัน ได้ข้อสรุปเป็นที่พอใจทั้งฝ่ายที่เป็นคณะกรรมการวัด และฝ่ายที่ทำหน้าที่นับเงินรวมถึงเจ้าอาวาสวัดบัวระพา และผู้แทนฝ่ายคณะสงฆ์แล้วว่าการนำส่งเงิน ฝากธนาคารและการนับเงินนั้น จำนวน 867,570 บาทนั้น ถูกต้องและเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายคณะกรรมการวัดที่ทำหน้าที่นับเงินกับบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ไปทำหน้าที่นับเงินของวัดและเจ้าอาวาสวัดบัวระพาแล้วนั้น ได้ข้อสรุปว่าไม่มีเงินของวัดสูญหายแต่อย่างใด และได้ข้อสรุปจนเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายจึงขอนำเรียนแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบถึงผลการตรวจสอบและการประชุมหาข้อเท็จจริงดังกล่าว
หากมีการนำเสนอข่าวที่มิได้กลั่นกรองความถูกต้องหรือความจริงเท็จของเนื้อหาข่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการนำข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเป็นการเผยแพร่หรือส่งต่อโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรือเป็นข้อมูลเท็จผู้กระทำอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน รวมถึงอาจมีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาอีกด้วย
ดังนั้น ผู้ได้รับการกระทบสิทธิหรือผู้เสียหาย ย่อมที่จะใช้สิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำการดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวนที่อยู่ในเขตอำนาจนั้นต่อไปได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ภายหลังมีหนังสือแถลงจากนายอำเภอ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงเตรียมเดินทางไปยื่นเรื่องกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีต่อไป
