เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุก่อวินาศกรรมในรถไฟใต้ดินที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศรัสเซีย ว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 14 ราย ผู้บาดเจ็บ 45 คน ส่วนการสอบสวนเบื้องต้นของหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย เอฟเอสบี ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุซึ่งเป็นมือระเบิดพลีชีพนั้นมีสัญชาติคีร์กิซสถาน
ผู้ต้องสงสัยมีชื่อว่า นายอักบาร์จอน ดจาเลียลอฟ อายุ 22 ปี เชื้อสายอุซเบก เกิดที่เมืองออช เมืองใหญ่อันดับ 2 ทางตอนใต้ของประเทศคีร์กิซสถาน ในชุมชนชาวอุซเบก อีกกระแสข่าวว่านายดจาเลียลอฟอาจถือสัญชาติรัสเซียด้วย
ภาพจากเอเชียพลัส
จากการสอบสวนคนรู้จักทราบว่า นายดจาเลียลอฟเข้ามาทำงานเป็นช่างซ่อมรถ ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อปี 2558 จากนั้นได้หายตัวไป โดยเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งบอกว่า นายดจาเลียลอฟไปประเทศเกาหลีใต้
AFP PHOTO / –
ขณะเดียวกัน อินเตอร์แฟ็กซ์รายงานว่า ชายผู้ต้องสงสัยรายแรกที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยให้การว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดรถไฟใต้ดิน
ก่อนหน้านี้ตำรวจเปิดเผยข้อมูลว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้แวะเข้ามาขึ้นขบวนรถไฟใต้ดินที่สถานีจัตุรัสเซนนายา โดยนำกระเป๋าสะพายหลังมาวางทิ้งไว้ และหลบหนีออกไป จากนั้นเกิดระเบิดในโบกี้
ผู้ต้องสงสัยรายแรกแสดงตัวยืนยันความบริสุทธิ์
สำหรับเหตุดังกล่าว นายอันเดร ปรเจซดอมสกี โฆษกหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายรัสเซีย หรือแน็ก ระบุว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในเวลา 14.40 น. ขณะขบวนรถไฟกำลังวิ่งอยู่ระหว่างสถานีสถาบันเทคโนโลยี กับสถานีจัตุรัสวอสสตานียา หลังเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่พบวัตถุระเบิดอีกแห่งที่สถานีจัตุรัสวอสสตานียา แต่หน่วยเก็บกู้ระเบิดเข้าถอดชนวนทัน
AFP PHOTO / Olga MALTSEVA
นอกจากนี้ พนักงานขับรถไฟคันเกิดเหตุ ชื่อนายอเล็กซานเดอร์ คาเวริน อายุ 50 ปีที่ควบคุมสติได้ในจังหวะเกิดระเบิดขึ้น ตัดสินใจขับรถไฟให้ถึงสถานีหน้า เพื่อผู้โดยสารอพยพได้ นายคาเวรินกล่าวว่า ตนเองไม่ใช่ฮีโร่อะไร แค่ทำตามกฎปฏิบัติเท่านั้น และในสถานการณ์นี้ กฎระบุไว้ว่าต้องขับไปยังสถานีหน้า
ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ นักวิชาการวิเคราะห์ถึง 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กบฏเชเชน ศัตรูตลอดกาลของรัสเซีย และกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ที่แค้นรัสเซียเข้าไปแทรกแซงศึกซีเรีย หรือเป็นไปได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อของทั้งสองกลุ่ม เนื่องจากนักรบเชเชนเข้าไปช่วยไอเอสในซีเรียกจำนวนมาก
ด้านบรรยากาศในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กยังคงอยู่ในความโศกเศร้าและตึงเครียด ชาวรัสเซียต่างพากันนำดอกไม้ไปวางที่ทางลงสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิต บางคนระบุว่า เริ่มกลัวที่จะใช้บริการรถไฟใต้ดิน และไม่เคยคาดคิดว่าเหตุเช่นนี้จะเกิดขึ้นในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขณะที่รัสเซียยกระดับการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟใต้ดินทั่วประเทศ
