เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เดลี่เมล์รายงานเรื่องราวสะเทือนใจ จากการสำรวจซากเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับสองของอิรัก บริเวณฝั่งตะวันตก หลังการสู้รบยาวนานเพื่อขับไล่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ทหารอิรักช่วยเด็กน้อย 2 คนออกมาจากใต้ซาก
Guzy/ZUMA Wire/REX/Shutterstock
เด็กกำพร้าคนหนึ่งเป็นผู้ชายรูปร่างผอมซูบ กินเศษเนื้อเพื่อประทังชีวิต ระหว่างหลงอยู่ในเมืองที่พังยับเยิน ส่วนเด็กหญิงมีชื่อ อามีนา ได้รับความช่วยเหลือจากทหารที่ได้ยินเสียงร้องมาจากใต้ซาก
เด็กหญิงตอบคำถามทหาร ที่จับความได้ว่าพ่อแม่ของตนเป็นนักรบในเมือง (ไอเอส) เสียชีวิตเพราะจุดระเบิดพลีชีพ
ด้านเอเอฟพีรายงานสถานการณ์ของชาวบ้านผู้ประสบภัยสงครามและเคยหนีออกจากเมืองโมซุล ว่าแม้หลายคนอยากกลับบ้าน หลังจากไอเอสออกไปจากเมืองแล้ว แต่ด้วยสภาพที่เมืองพังยับเยิน ไม่มีระบบไฟฟ้า ประปา อีกทั้งยังเสี่ยงเกิดเหตุปะทะจากนักรบที่หลงเหลืออยู่ จึงยังไม่มีหนทางที่จะกลับไปได้
Guzy/ZUMA Wire/REX/Shutterstock
จากข้อมูลขององค์การโยกย้ายถิ่นระหว่างประเทศ หรือ IOM ตั้งแต่กองทัพอิรักเปิดฉากปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุลในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีประชาชนนับล้านอพยพออกจากเมือง ในจำนวนนี้ 825,000 ไม่อาจจะกลับบ้านได้
Guzy/ZUMA Wire/REX/Shutterstock
เมลานี มาร์คัม โฆษกหญิงของสภาผู้อพยพนอร์เวย์ กล่าวว่า ถึงชาวบ้านไม่อยากอยู่ในค่ายอพยพ แต่ก็กลับบ้านไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ไม่มีอาหาร ไม่มีโรงเรียน ไม่มีโรงพยาบาล และบ้านเรือนก็พังราบเป็นหน้ากลอง
หญิงอายุ 69 ปีคนหนึ่ง ที่จากบ้านมานาน 8 เดือนแล้ว กล่าวว่า “ฉันจะกลับไปไหนได้หรือ เราไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน เราจะกลับบ้านได้อย่างไร
