เมื่อวันที่ 18 ก.ค. บรรดาสื่อมวลชนชาติตะวันตกรายงานว่า เว่ยป๋อ รวมถึงสื่อโซเชี่ยลมีเดียของจีนอื่นๆ แบนการ์ตูนวินนี่ เดอะ พูห์ หลังจากมีชาวเน็ตนำการ์ตูนตัวนี้มาตัดต่อเปรียบเทียบนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของจีน
ภาพล้อเลียนดังกล่าวเริ่มจากทำภาพเปรีบบเทียบนายสี จิ้นผิง ผู้นำจีนเดินข้างนายบารัก โอบามา เมื่อปี 2556 กับรูปหมีพูห์เดินอยู่กับทิกเกอร์ เสือเพื่อนรัก ตามด้วยภาพเปรียบเทียบการจับมือของนายสีกับนายชินโซ อาเบะ เมื่อปี 2557 เทียบกับหมีพูห์ยืนจับมือกับเจ้าลาอียอร์ นอกจากนี้ยังมีภาพเปรียบเทียบรูประหว่างที่นายสี อยู่บนรถตรวจกองทหาร กับรูปตุ๊กตาหมีพูห์นั่งรถสีเขียวอันน่ารัก
บีบีซีของอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า การสั่งแบนไม่เพียงแค่ตัวการ์ตูนเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงชื่อคนที่ไม่สามารถใช่สื่อสารได้ในประเทศ อย่างชื่อของนายหลิว เสี่ยวปอ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่้งเสียชีวิตเมื่อ 13 ก.ค. ในแอพพลิเคชั่นอย่างวีแช็ต (Wechat) โปรแกรมสื่อสารที่ได้รับความนิยมในจีน แม้ผู้ใช้พิมพ์ชื่อ หลิว เสี่ยวปอ ได้ แต่คำๆ นี้จะหายไปกลางอากาศ
การแบนครั้งนี้เชื่อว่า สะท้อนว่า ทางการจีนจะไม่อดทนต่อนำผู้นำมาล้อเล่น แม้ว่าในหลายประเทศ การเปรียบเทียบผู้นำประเทศกับตัวการ์ตูนอาจดูเป็นเรื่องไร้พิษภัย แต่สำหรับแดนพญามังกรแล้วไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่จีนจะเปิดการประชุมรัฐสภาช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่พยายามเข้มงวดในการสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการประชุมแต่งตั้งคณะกรรมาธิการโปลิตบูโร หรือคณะกรรมาธิการกรมการเมืองชุดใหม่ ที่มีทุกๆ 5 ปีกำลังใกล้เข้ามา
ท่าทีของนายสี ที่กำลังจะเริ่มเทอมที่สองในวาระการเป็นประธานาธิบดีจีนก็จะต้องมีการเข้มงวดในเรื่องของการกระชับอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนโยบายปราบโกงสร้างศัตรูไว้มากมายในพรรคคอมมิวนิสต์
