โควิด : จีนผงะไวรัส “โผล่ซ้ำ” ห่างนานสุด 6 เดือนหลังป่วยครั้งแรก
โควิด : จีนผงะไวรัส “โผล่ซ้ำ” – วันที่ 13 ส.ค. บลูมเบิร์ก และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานกระแสหวาดผวาในประเทศจีน หลังจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายมานานหลายเดือน กลับมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกอีกครั้ง ท่ามกลางการตั้งข้อสงสัยถึงระดับความรุนแรงของไวรัส และการกำเริบของเชื้อซ้ำสอง
สำหรับกรณีแรกเป็นหญิงวัย 68 ปี จากมณฑลหูเป่ย มีอาการป่วยเมื่อเดือนธ.ค.2562 จากนั้นเข้ารับการรักษาจนหายเป็นปกติ แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค.2563 หรือราว 6 เดือนหลังเริ่มป่วยครั้งแรก กลับพบว่ามีเชื้อไวรัสมรณะในร่างกายอีกครั้ง
ขณะที่ชายอีกคนในนครเซี่ยงไฮ้ ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อเดือนเม.ย.2563 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจนหายดี และออกมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ราว 4 เดือนนับตั้งแต่เริ่มป่วยครั้งแรก ก็ตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบคนในครอบครัว รวมทั้งบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด แต่ไม่พบผลตรวจเป็นบวก
ก่อนหน้านี้มีกรณีแพทย์หญิงชาวที่โรงพยาบาลเชบาเมดิคอลเซ็นเตอร์ เมืองรามัทกัน ของอิสราเอล ตรวจพบว่าติดโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่สอง หลังป่วยครั้งแรกเมื่อเดือนเม.ย. และหายปกติ แต่พอกลับมาทำงานรักษาผู้ป่วยติดโควิด-19 นานกว่า 2 เดือนก็เริ่มมีอาการป่วยและตรวจพบเชื้ออีกครั้ง
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดเชื่อว่าการตรวจพบเชื้อซ้ำสองอาจเป็นความผิดพลาดในวิธีตรวจหาเชื้อ และหากโควิด-19 เป็นไวรัสที่กำเริบได้ก็น่าจะมีรายงานพบการติดเชื้อซ้ำมากกว่านี้ แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายในกรณีที่ตรวจพบเชื้อหลังหายป่วยนานหลายเดือน หรือการพบเชื้อภายหลังทั้งที่ตรวจหาเชื้อต่อเนื่องหลายครั้งและไม่พบว่าไวรัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: