เอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เกิดเหตุก่อการร้ายเขย่าขวัญในนครบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อมีรถตู้วิ่งฝ่าขึ้นไปบนทางเดิน ไล่ชนผู้คนไปตลาดทางในย่านถนน ลาส รัมบลัส ใจกลางเมืองตำรวจแคว้นคาตาลันแถลงอัพเดตข้อมูลว่า มีเหยื่อเสียชีวิตแล้ว 13 ราย บาดเจ็บถึง 80 กว่าคน
เมื่อตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ต่างนำกำลังรุดมารีบปิดกั้นบริเวณ และสั่งให้ร้านค้าและสถานีรถไฟในบริเวณปิดให้บริการ พร้อมกันผู้คนออกจากจุดเกิดเหตุ เพื่อเปิดทางให้รถกู้ภัยและหน่วยปฐมพยาบาล นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ของเจ้าหน้าที่บินเข้ามาเหนือพื้นที่ด้วย
/ AFP PHOTO / Josep LAGO
ต่อมา ตำรวจเผยแพร่ภาพผู้ต้องสงสัยที่เช่ารถตู้ และคาดว่าเป็นผู้ขับไล่ชนผู้คน ชื่อนายดริสส์ อูบากีร์ อายุอยู่ในช่วงวัย 20 เกิดในประเทศโมร็อกโก
ผู้ต้องสงสัย
ลาส รัมบลัส เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นถนนคนเดินและช้อปปิ้ง และรถยนต์ผ่านเข้าไปได้ อยู่ห่างจากจุดใจกลางเมือง 1.2 ก.ม. โดยเฉพาะช่วงเวลาหน้าร้อนนี้ ยิ่งมีนักท่องเที่ยวหนาแน่น
นายคีธ เฟลมมิง ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในบาร์เซโลนาให้สัมภาษณ์ว่า ได้ยินเสียงโกลาหลมาถึงระเบียงห้องพัก เมื่อวิ่งไปดูเห็นผู้หญิงและเด็กวิ่งหนีกันอย่างหน้าตาตื่น
www.mirror.co.uk
The Israel News Feed / TWITTER
การใช้รถวิ่งชนคนตายเป็นวิธีก่อการร้ายที่สมาชิกสายสุดโต่งนิยมใช้มากขึ้นในยุโรป นับจากเหตุการณ์ช็อกที่เมืองนีซ เมื่อวันชาติฝรั่งเศส 14 ก.ค. ปี 2559 ที่คร่าชีวิตเหยื่อกว่า 86 ราย จากนั้นยังเกิดเหตุลักษณะคล้ายกันที่สังหารชีวิตผู้คนตามเมืองใหญ่ในยุโรป ไม่ว่า กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี มีผู้เสียชีวิต 12 ราย กรุงลอนดอนของอังกฤษเกิดขึ้นหลายครั้งในปีนี้ รวมถึงในกรุงสตอล์กโฮล์มของสวีเดน เป็นต้น
Dailymail
