เมื่อ 22 ต.ค. เอพีและเดลีเมล์รายงานเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญใกล้มหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโด ผู้ตาย 3 คน เป็นชาย 2 คนที่เป็นเพื่อนรักกัน ส่วนอีกคนเป็นนักศึกษาสาว อายุ 22 ปีถูกยิงตายในวันเกิด และมีเหยื่ออีกรายบาดเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากรักสามเส้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นรูปแบบใด
เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเปิดเผยชื่อผู้ตายในเวลาต่อมา หญิงสาวชื่อ ซาวันนาห์ แม็กนีลี เรียนวิชาศิลปเสรีนิยมและประวัติศาสตร์ศิลปะ ทั้งยังเป็นฝ่ายออกแบบให้สื่อสิ่งพิมพ์แคมปัสรายเดือนของมหาวิทยาลัย จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในเดือนธันวาคมนี้
รอยกระสุนที่รถซึ่อยู่ใกล้เคียง
สำหรับชายหนุ่ม คนหนึ่งเป็นมือปืนผู้ก่อเหตุ ชื่อ ไมเคิล ซาโมรา อายุ 30 ปี เป็นนายทหารกองทัพอากาศมา 8 ปี อีกคนชื่อทริสทัน เคมป์ อายุ 26 ปี เคยประจำการอยู่กองทัพอากาศเช่นเดียวกัน
Fort Collins, Colo. (Austin Humphreys/The Coloradoan via AP)
เหตุเกิดเมื่อช่วงตีสองวันพฤหัสฯ ที่ 19 ต.ค. ตามเวลาสหรัฐ นายซาโมราและนายเคมป์เดินทางไปมหาวิทยาลัยของแฟนสาวเพื่อฉลองวันเกิดให้ฝ่ายหญิง แต่ต่อมานายซาโมรากลับยิงเพื่อนรักและแฟนตนเองแบบกระหน่ำยิงหลายนัด ก่อนยิงตัวตายตามไป ส่วนหญิงสาวอีกคนบาดเจ็บ แต่พ้นอันตรายแล้ว
นายซาโมรา มือปืน กับแฟนสาว
ผู้กำกับการตำรวจเทอร์รี โจนส์ เมืองฟอร์ตคอลลินส์ พื้นที่เกิดเหตุเผยผลสอบสวนเบื้องต้นว่า ลักษณะการยิงเหยื่อทั้งสามของนายซาโมราเป็นแบบดักซุ่มโจมตี เหยื่อจึงถูกยิงพรุน จมกองเลือด ส่วนมือปืนใช้ปืนจ่อยิงที่ศีรษะตนเอง เสียชีวิตด้วยกระสุนนัดเดียว
นอกจากนี้ยังพบว่า นายซาโมราออกไปฉลองกับเหยื่อทั้งสามคน แต่ไม่ได้กลับบ้านด้วย กระทั่งทั้งสามคนใช้บริการรถแท็กซี่มาส่งที่อพาร์ตเมนต์ จังหวะลงจากรถและรถวิ่งออกไปได้พักหนึ่ง เหยื่อก็ถูกยิงใส่ เจ้าหน้าที่พบปืนไรเฟิล 2 กระบอก และปืนพก 1 กระบอกที่จุดเกิดเหตุ
ตำรวจกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ (Austin Humphreys/The Coloradoan via AP)
หญิงสาวแม็กนีลีเพิ่งจะคบหากับนายซาโมราเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ ทีมสอบสวนเผยว่าไม่ตัดประเด็นรักสามเส้า
นายโธมัส เปเรซ อาของนายเคมป์ ผู้ตาย กล่าวว่า นายซาโมราและหลานตนเคยไปสมรภูมิอัฟกานิสถานด้วยกัน และก็เคยทำงานบริษัทเดียวกันในรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อมานายซาโมราอาศัยอยู่ที่ฟอร์ต คอลลินส์ แต่บรรจุเป็นทหารที่กองทัพอากาศในรัฐไวโอมิง ส่วนนายเคมป์อยู่ที่รัฐฮาวาย แต่ไปโคโลราโด ช่วงที่ซาโมราพบกับแฟนสาว
เพื่อนมหาวิทยาลัยของแม็กนีลีเสียขวัญ (Timothy Hurst/The Coloradoan via AP)
“ผมบอกได้เลยว่าหลานผมเป็นฮีโร่อเมริกัน เขาภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติและประชาชน ตอนที่เขาออกจากกองทัพ เขายังคงทำหน้าที่พลเรือน” นายเปเรซกล่าว
