เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานความคืบหน้าของปฏิบัติการขับไล่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกจากประเทศอิรัก และยึดคืนเมืองโมซุล ยุทธศาสตร์สำคัญทางภาคเหนือว่า ไอเอสโจมตีกลับด้วยการตลบหลังกองทัพอิรัก ส่งนักรบบุกโจมตีเมืองคีร์คุก แหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของประเทศ ซึ่งอยู่บริเวณภาคเหนือเช่นเดียวกัน
นักรบไอเอสบุกเข้าไปยังอาคารต่างๆ ทั่วเมือง สังหารเหยื่ออย่างน้อย 19 ราย ส่วนฝ่ายไอเอสเสียชีวิต 12 ราย การสู้รบยังเป็นไปอย่างดุเดือดข้ามวันข้ามคืน เพื่อดึงความสนใจจากการบุกยึดเมืองโมซุล ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองคีร์คุก
ด้านนายกเทศมนตรีเมืองคีร์คุก ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดราว 240 ก.ม. เปิดเผยว่า เหตุโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คนร้าย 3 คนสวมเสื้อบรรจุระเบิดบุกระเบิดพลีชีพที่โรงงานผลิตไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ ทีมระเบิดพลีชีพใช้ปืนไรเฟิลกระหน่ำยิงหลายพื้นที่ในเมืองคีร์คุก ในจำนวนนี้เป็นสถานีตำรวจ ที่ไอเอสสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย 6 ราย
นับตั้งแต่กองทัพอิรักเปิดปฏิบัติการมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ยึดคืนพื้นที่ได้แล้วอย่างน้อย 100 ตารางกิโลเมตร และสังหารนักรบไอเอสกว่า 200 ราย ล่าสุดกองทัพอิรัก พร้อมด้วยกองกำลังนักรบชาวเคิร์ด เปชเมอร์กา รุกคืบเข้าสู่เมืองบาร์เทลลา ชุมชนชาวคริสต์ ห่างจากเมืองโมซุล ฐานตั้งมั่นสุดท้ายของไอเอสในอิรัก ราว 30 ก.ม.
ขณะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความวิตกกังวลหลังมีรายงานระบุว่า ไอเอสจับกุมชาวบ้านชานเมืองโมซุลราว 550 ครอบครัวไปเป็นโล่มนุษย์ บังคับให้อยู่รอบๆ ที่ทำการ และแหล่งซ่องสุมเพื่อไม่ให้ฝ่ายรัฐบาลอิรักโจมตี