เมื่อการเมืองล่าช้า เศรษฐกิจก็ซวนเซ
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย… วงค์ ตาวัน
เมื่อการเมืองล่าช้า เศรษฐกิจก็ซวนเซ – มีการนับวันเวลาหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม จนถึงเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา เท่ากับว่าครบ 100 วันเข้าไปแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่สำเร็จเสร็จสิ้นเสียที นับว่ายืดเยื้อยาวนานจริงๆ
ในโลกโซเชี่ยล มีการนำเอาคำว่า “ครบ 100 วัน” มาเสียดสีคณะรัฐบาลที่จัดตั้งยากเย็นชุดนี้ทำนองว่า ครบ 100 วันแล้วก็ต้องเผาสิ
แต่ก็นั่นแหละ ที่ต้อง “เผา” มากกว่า ย่อมหมายถึงสภาพเศรษฐกิจ และชีวิตปากท้องประชาชน
ยิ่งการเมืองลงตัวล่าช้า ย่อมกระทบการค้าการ ลงทุนแน่ๆ
แถมยังมีปัญหาสะสมมาตลอดช่วง 5 ปีที่แล้ว มาเจอการตั้งรัฐบาลที่ 3 เดือนกว่าแล้วยังไม่จบ
แบบนี้ที่น่าเป็นห่วงสุดก็คือ สภาพข้าวยากหมากแพง!
ล่าสุดผู้นำรัฐบาล ก็ได้แต่ยืนยันว่า การตั้งรัฐบาล ไม่ได้ล่าช้าอะไร รับรองว่ากลางเดือนกรกฎาคมนี้ ได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีใหม่แน่ๆ
เท่ากับว่าจะต้องเกินจาก 100 วันไปอีก 1-2 สัปดาห์ทำนองนั้น
ได้แต่หวังว่า ถ้าเรียบร้อยลงตัว เริ่มบริหารราชการงานแผ่นดิน คงจะมีฝีมือเร่งพลิกฟื้นสภาพเศรษฐกิจให้ได้ โดยเร็วไว
สิ่งที่สะท้อนสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในยุคนี้ เห็นได้จากการประชุมสภาผู้แทนฯ ในช่วงระยะนี้
เรื่องใหญ่ที่ส.ส.ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล หยิบขึ้นมาเป็นกระทู้ หยิบขึ้นมาเป็นวาระในการอภิปราย
ก็คือ ปัญหาราคาพืชผลการเกษตร
ไม่มีใครเลยที่จะสามารถอภิปรายได้ว่า ตอนนี้เกษตรกร มีรายได้งอกเงย มีสีหน้าผ่องใส
มีแต่เสียงโอดครวญของชาวนาชาวสวนชาวไร่ที่ร้องผ่านผู้แทนฯ ของเขา!
ออกมาดูความเป็นจริงนอกสภาผู้แทนฯ
ข่าวคนร้ายออกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง แทบทุกค่ำคืน
เป็นภาพสะท้อนความจริงของปัญหาสังคมไทยในขณะนี้
อาจจะมีเหตุจูงใจคนร้ายหลายประเด็น เรื่องหนี้สินการพนัน เรื่องติดยา แต่เรื่องเงินทองปากท้องต้องเป็นเหตุด้วย
มินิมาร์ตที่เปิดตลอดเวลา จึงตกเป็นเป้าในยามวิกาล เพราะก่อเหตุง่าย และต้องมีเงินในลิ้นชักแน่ๆ
จริงอยู่เหตุอาชญากรรม ต้องมีในทุกสังคม ป้องกันหรือหยุดยั้งได้ยาก
แต่ถ้าการเมืองดี การค้าขายไปได้ ผู้คนมีเงินทอง ใช้จ่ายไม่ฝืดเคือง
อาชญากรรมก็ลดน้อยลงไปเป็นเงาตามตัว!
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม โดย วงค์ ตาวัน
…อ่าน..