อดอยากยุคโควิด
ประชาชนต้องช่วยกันเอง
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
อดอยากยุคโควิด – ในช่วงระยะนี้ หลายคนคงได้พบเห็นภาพทำนองนี้ ปรากฏตามพื้นที่ต่างๆ โดยมีรถแล่นมาจอดริมถนน จุดที่มีคนเร่ร่อนหรือคนที่ชีวิตยากลำบากอาศัยอยู่ แล้วคนในรถลงมาพร้อมข้าวกล่อง 20-30 ห่อ จัดรวมกับน้ำดื่มอีก 1 ขวด เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้คนในบริเวณนั้น ก่อนจะร่ำลากันด้วยคำขอบคุณ พร้อมกับสัญญาว่า มีเวลาแล้วจะแวะมาใหม่
นี่คือกิจกรรมของคนที่เห็นอกเห็นใจกันในรายเล็กๆ ในท่ามกลางวิกฤต
นอกเหนือไปจากกรณีคนที่มีสตางค์มากหน่อย หรือคนที่มีศักยภาพระดมการช่วยเหลือบริจาคได้ จนสามารถจัดจุดแจกจ่ายข้าวปลาอาหารให้กับชาวบ้านแบบทั้งชุมชน ดังที่ปรากฏเป็นข่าว
จึงต้องบอกว่า ในสถานการณ์โควิดนั้น มีทั้งต้องการต่อสู้กับโรคระบาด หยุดคนติดเชื้อและคนป่วยตาย
และทั้งต้องดูแลคนที่ไม่ได้ป่วย แต่กำลังจะ อดตายด้วย!
โดยพร้อมๆ กับมาตรการล็อกเมืองนั้น ทำให้ธุรกิจแทบทุกอย่างชะงักหมด นำมาซึ่งปัญหาที่ใหญ่โตมโหฬาร คือ คนอดอยากไม่มีกิน
ความภาคภูมิใจของรัฐบาล จึงไม่ได้อยู่เพียงแค่สามารถควบคุมคนป่วยและคนเสียชีวิตจากโควิดได้ดีเท่านั้น
แต่สิ่งที่ต้องทำอีกด้าน ซึ่งเกิดคำถามว่าขาดตกบกพร่องหรือไม่
จนทำให้ประชาชนคนเล็กคนน้อยที่พอจะมี หรือคนที่มีมากหน่อย ไปจนถึงเศรษฐีที่เข้าใจชีวิตคนเดินดิน
ต้องออกมาช่วยเหลือเกื้อกูลกันเอง
แต่ในรายที่ระดมสิ่งของมาช่วยเหลือได้เป็นจำนวนมาก เกิดภาพผู้คนนับพันเข้าแถวยาวเหยียด ขัดมาตรการระยะห่างทางสังคม
กลับถูกตำหนิติเตียนจากฝ่ายรัฐ กระทั่งจะเอาผิดตามพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งที่เป็นผู้ปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแท้ๆ!
อีกทั้งการดูแลคนไม่ให้อดตายนั้น ควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรง
หรือถ้าจะมีคนใจบุญออกมาช่วยเหลือคนตกยาก แล้วอาจจะก่อปัญหาด้านการระบาดของเชื้อไวรัส เพราะการออกมาออกันรับข้าวของ ควรต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐมาช่วยอำนวยความสะดวกไม่ใช่หรือ
อาการของรัฐบาล ทำราวกับว่า ภาพที่คนระดมข้าวของออกช่วยเหลือประชาชนถึงชุมชน ถึงริมถนนต่างๆ นั้น
ทำให้เกิดการ“เสียหน้า”อะไรทำนองนั้น!?
ก็ต้องยอมรับว่า ก่อนออกมาตรการให้ประชาชนเก็บตัว อยู่กับบ้าน คงคิดกันแต่เพียง ทำทุกทางเพื่อให้หยุดเชื้อไวรัสให้ได้
แต่คงไม่ได้คิดว่า ให้คนอยู่กับบ้าน แถมจำนวนมากต้องอยู่ในสภาพตกงาน เพราะกิจการห้างร้านต่างๆ โดนปิดไปหมด
นั่นจะเกิดปัญหาอีกด้านที่รุนแรงมากกว่ากับชาวบ้านวงกว้างกว่า
จนสุดท้ายประชาชน ต้องออกมาช่วยเหลือกันเอง เพราะเข้าใจในหัวอกคนยากลำบากหิวโหยด้วยกันเอง
แต่ก็อย่างว่า ต้องเห็นใจรัฐบาลบ้าง เพราะตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการนัดพบปะ 20 มหาเศรษฐีอยู่