จากกรณีคนร้ายนำรถเก๋งประกอบระเบิดคาร์บอมบ์มาจอดทำทีเติมน้ำมันหยอดเหรียญ ข้างสำนักงานบริหารราชการตำบลปิยามุมัง และสหกรณ์รวมพลังหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณวัดปิยามุมัง ม.3 ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จากนั้นหลบหนีไป ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ทหารพราน 1 นาย นอกจากนี้แรงระเบิดทำให้มีความเสียหายจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

201611181103199-20160216143312

อ่านข่าว คนร้ายวางคาร์บอมบ์ถล่มตู้น้ำมันหยอดเหรียญ สนั่นยะหริ่ง สหกรณ์พังยับ ชาวบ้านเจ็บ 5 ราย

สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อตรวจหาวัตถุพยาน

201611181103197-20160216143312

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุปรากฏว่าพบชิ้นส่วนไอซีไทม์เมอร์ หรือตัวตั้งเวลาถอยหลังจุดชนวนระเบิด ที่ใช้ในการก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ และยังพบชิ้นส่วนถังแก๊สที่คนร้ายบรรจุระเบิดในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 80 กิโลกรัม กระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และพบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิด 2 หลุม ขณะที่ความเสียหายจากแรงระเบิดครั้งนี้ พบว่าแรงระเบิดทำให้ปั้มน้ำมันหยอดเหรียญ เกิดเพลิงลุกไหม้ลามไปยังอาคารปูนสองชั้นของสำนักงานราชการ ตำบลปิยามุมัง จนเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง เช่นเดียวกับร้านสหกรณ์ก็ได้รับเสียหาย จากแรงระเบิดไปด้วย นอกจากนี้ กำแพงและอาคารเรียนห้องครัวของโรงเรียนชุมชนวัดปิยาราม ซึ่งอยู่ตรงข้ามได้รับความเสียหายไปด้วย

201611181103193-20160216143312

ส่วนรถยนต์คาร์บอมบ์ที่คนร้ายนำมาก่อเหตุนั้น พตอ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ระบุว่า เป็นรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน วฐ1563 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่จดทะเบียนกรุงเทพฯ และเจ้าของเดิมก็เป็นคนกรุงเทพฯ แต่มีการขายโอนลอยกันหลายทอด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังไล่ตรวจสอบหาผู้ที่ครอบครองรถคนล่าสุด ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่

201611181103194-20160216143312

จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่คนร้ายใช้ร่วมในการก่อเหตุลอบวางระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน โดยทำหน้าที่ในการขนส่งคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 10-13 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางหน่วยความมั่นคงยังได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำมาประกอบระเบิดก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นในครั้งนี้

201611181103198-20160216143312

สำหรับการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าพบคนร้ายขับรถคาร์บอมบ์มาจากด้านหลังของวัด โดยมีคนร้ายอีกหนึ่งคนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง จากนั้นคนร้ายจึงนำรถมาจอดไว้ด้านข้างสำนักงานบริหารราชการตำบล ทำทีว่าจะเติมน้ำมันหยอดเหรียญ ก่อนที่คนร้ายอีกคนเข้าไปภายในสหกรณ์ทำทีว่าจะเข้าไปซื้อของ แต่นำระเบิดปลอมมาซุกไว้ จากนั้นคนร้ายทั้งสองคนได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ ก่อนจะหลบหนีก็นำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กิโลกรัม มาซุกไว้ริมถนนอีกหนึ่งลูก เพื่อต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ จากนั้นประมาณ 5 นาทีก็เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ขึ้น ส่วนระเบิดอีกหนึ่งลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่สามารถกู้ไว้ได้ทัน

201611181019361-20161102133820

จากนั้น นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุที่บ้านปิยา ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ทั้งหมดอาการปลอดภัย โดยถูกนำส่งต่อที่ รพ.ปัตตานี 2 ราย คือนาย ยุทธกานต์ ชูเนตร อายุ 41 ปี น.ส.สุชาดา พรหมภักดี อายุ 33 ปี ส่วน อีก 2 คนรักษาตัว ที่รพ.ยะหริ่ง คือนางอมรมาศ จันทรดี อายุ 40 ปี นายสันติ หวังนุรักษ์ อายุ 31 ปี อส.ทพ.วรรณพล รุ่งสุวรรณ อายุ 27 ปี สังกัดร้อย ทพ. 4212 โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธปัตตานี

201611181019373-20161102133820

ด้าน พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงวางระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมาตรการเดิม แต่เพิ่มรอบการออกลาดตระเวนตรงจุดเสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณที่ปรากฏออกมาเป็นภาพข่าว หลังเมื่อวานที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ความไม่สงบที่ จ.ปัตตานี 2 จุด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย

201611181019378-20161102133820

ทั้งนี้ ทางพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามความเคลื่อนไหว ข้อมูลการข่าวด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง พร้อมบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ รวมถึงดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชนทั่วไป

สำหรับสาเหตุของความรุนแรงในครั้งนี้ พ.อ.ยุทธนาม กล่าวว่า ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนร้ายจะหาโอกาสชิงลงมือหรือช่องทางก่อความไม่สงบ โดยขณะนี้มีการแจ้งข่าวเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมออยู่แล้ว

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุขว้างระเบิดที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้าย จนติดตามจับผู้ต้องสงสัยไว้แล้วเมื่อคืนนี้ โดยพบว่าเป็นวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตรงตามกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ค่ายสอบสวนอิงคยุทธ จ.ปัตตานี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน