จากกรณีที่มีประชาชนได้ร้องเรียนว่ามีผู้ประกอบการภาคเอกชนทำการก่อสร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่บนแนวโขดหินหลังโรงแรมขนาดใหญ่ หน้าชายหาดยินยอม เขาพระตำหนัก ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ของสระดังกล่าวอยู่ในทะเล ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเมืองพัทยา ได้ตรวจสอบพบว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และรวบรวมหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษไปยัง สภ.เมืองพัทยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 19 พ.ย.59 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง นำโดย นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ โรงแรมบริเวณเขาพระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีการร้องเรียนว่าพบสระว่ายน้ำของโรงแรมดังกล่าวอยู่ในทะเล

จากการตรวจสอบพบว่า สระว่ายน้ำของโรงแรมดังกล่าวลุกล้ำเข้าไปในเขตทะเลจริง นอกจากนี้โรงแรมแห่งนี้ยังเปิดบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีชายอายุ 64 ปีแสดงตัวเป็นเจ้าของโรงแรม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้ประกอบธุรกิจโรงแรมให้เช่าแบบรายวันมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีห้องพักจำนวน 47 ห้อง ราคาตั้งแต่ 1,500 – 5,000 บาท โดยเช่าอาคารต่อมาจากเจ้าของเดิม ซึ่งเคยเปิดบริการเป็นห้องพักรายเดือนมาก่อน ส่วนสระว่ายน้ำซึ่งมีมาพร้อมตอนเช่าอาคาร

เบื้องต้น ได้แจ้งขอกล่าวหา ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนโรงแรม พร้อมควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านเจ้าของโรงแรมได้ยื่นหลักทรัพย์ 40,000 บาท เพื่อขอประกันตัวชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เรื่องของสระว่ายน้ำที่ลุกล้ำเข้าไปในทะเลยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากเกี่ยวพันกับกฎหมายหลายด้าน ทั้งเรื่องของสิ่งปลูกสร้างและพื้นที่สาธารณะ ต้องรอเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน