เมื่อวันที่ 14.30 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวถึงการดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ผู้ก่อตั้งวัดพระธรรมกาย ภายหลังศาลจังหวัดสีคิ้ว ได้อนุมัติหมายจับ คดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ จ.นครราชสีมา และอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องฐานร่วมฟอกเงิน-รับของโจร ทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่น ว่า วันพรุ่งนี้ 30 พ.ย. เป็นวันสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เวลาพระธัมมชโยมามอบตัว หากไม่มาตำรวจมีมาตรการรองรับ

 

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตราการตามกฎหมาย ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่มามอบตัว และถ้าหากมีพยานบุคคลยืนยันว่าพระธัมมชโยอยู่ภายในวัด เจ้าอาวาสต้องรับผิดชอบฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหาที่มีหมายจับ เพราะผิดกฎหมายอาญาและต้องถูกดำเนินคดี ส่วนจะมีการประสานอะไรเพิ่มเติมหรือเน้นย้ำอะไรกับทางวัดพระธรรมกายหรือไม่นั้น ได้มอบหมายพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รรท.ผบก.ส.4 ไปดำเนินการ เนื่องจากวันที่ไปประสาน มีทนายความของวัดพระธรรมกาย ออกมาบอกว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็หมายความว่าวัดให้ที่พักพิงผู้ต้องหาตามหมายจับ

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่วัดบอกว่าพระธัมมชโยยังมีการอาพาธ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้มีว่าอาพาธหรือไม่อาพาธ มีกฎหมายมาตราไหน ก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย ยืนยันว่าแม้มีการอาพาธเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อยกเว้น ถ้าทนายความยืนยันว่ายังอยู่ภายในวัด ตำรวจก็จะขอหมายค้น และต้องนำตัวทนายความไปสอบปากคำว่าพระธัมมชัยโยยังอยู่ในวัดจริงหรือไม่ ถ้ายืนยันว่ายังอยู่ก็ต้องขอออกหมายค้น จากทางด้านการข่าว 80 เปอร์เซ็นต์ยังอยู่ แต่อีก 20 เปอร์เซ็นต์ไม่อยู่ เพราะไม่มีใครเห็น

 

เมื่อถามว่าพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฟ้องพร้อมสำนวน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สำนวนคดีรุกป่าที่เขาใหญ่ยังไม่ส่งถึงอัยการ ส่วนแนวทางล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ จะประสานมาภายหลังวันที่ 30 พ.ย.หรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่มีการประสานอะไรมาเลย ขณะที่ทางวัดพระธรรมกายจะส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่นั้นขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณ เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด ต้องดูหลังจากวันที่ 30 พ.ย. ถ้าวันที่ 1 ธ.ค.ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหวก็มีมาตรการดำเนินการทางกฎหมาย แต่ไม่ขอเปิดเผย

ต่อข้อถามว่าหวั่นใจหรือไม่ถ้าหากดำเนินการตามกฎหมายแล้วอาจจะเกิดผลกระทบที่จะตามมาจากศิษย์ยานุศิษย์ที่เป็นแนวกันชนในการกีดขวางเจ้าหน้าที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีหน้าที่รักษากฎหมายและทำตามกติกาบ้านเมือง กฎหมายบ้านเมืองมีก็ทำไปตามนั้น ส่วนจะนำประสบการณ์ครั้งที่แล้วที่มาทบทวนเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตำรวจฝ่ายเราไม่เคยมีประสบการณ์ เพราะการบุกวัดพระธรรมกายครั้งที่แล้วไม่ใช่งานของเรา เป็นงานของดีเอสไอ

เมื่อถามว่าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดีเอสไอ ใครจะได้ตัวพระธัมมชโยก่อนกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบไม่ได้ ใครได้ตัวมาก่อนก็เหมือนกัน ใครได้ตัวมาก่อนที่เหลือก็อายัดตัวไป ยืนยันไม่หวั่นว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ดีเอสไอเข้าบุกจับครั้งก่อน ส่วนกรณีที่ทางวัดมีการระดมศิษย์ยานุศิษย์จำนวนมาก จะมีแผนรองรับในการเผชิญเหตุหรือไม่นั้น ก็คงต้องมี เพราะเรื่องของความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนกรณีการขัดขวางของศิษย์ยานุศิษย์เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่นั้น เนื่องจากขณะทางวัดมีการเรียกคนเข้ามาในวัดจำนวนมากนั้น ขณะนี้ยังไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ถ้าถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานแล้วมีการขัดขวางก็ถือว่าผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่า คำพูดของศิษย์ยานุศิษย์บอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าทำให้ตกใจนั้น ตำรวจได้นำคำพูดนี้มาทบทวนว่ามีความหมายว่าอย่างไร พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าต้องบังคับใช้กฎหมาย จะพูดและทำอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ส่วนลักษณะคำพูดของนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษย์ยานุศิษย์ ที่ออกมาพูดเชิงปลุกระดมมวลชน อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่นั้น กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจาณาว่าเข้าข่ายหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน