เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกขับฝ่าสัญาณไฟจราจร และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าสกัดจับ โดยพบว่าเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ นิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 96-9575 กทม. โดยเบื้องต้นได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท เรียกให้หยุดบริเวณแยกประตูน้ำ เนื่องจากขับย้อนศร และวิ่งอยู่บนบัสเลน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้เรียกให้หยุดและจอดรถขวางหน้ารถไว้ ก่อนจะเข้าไปพูดคุย
แต่ระหว่างนั้นชายคนขับได้เหยียบคันเร่งพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดขวางหน้ารถฝ่าออกไปทางถนนเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท จึงวิทยุแจ้งโรงพักใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ จนพบว่ารถบรรทุกของคนร้ายขับมาในพื้นที่ สน.มักกะสัน เข้าซอยศูนย์วิจัย วิ่งผ่านหน้า สน.มักกะสัน แล้ววนกลับเข้าถนนเพชรบุรีอีกครั้ง ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อ แล้วขับผ่านหน้า สน.ทองหล่อไป เลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ 10 เลี้ยวขวาเข้าซอยเอกมัย มุ่งหน้าแยกเอกมัย ซึ่งตลอดระยะทางที่คนร้ายขับหลบหนี ก็ได้เฉี่ยวชนรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนนรวมแล้วกว่า 30 คัน ซึ่งเจ้าตำรวจพญาไท ที่ไล่ติดมาก็ยิงยางรถสกัดจนยางแตก แต่รถคนร้ายยังไม่ยอมหยุด ก่อนที่รถจะน้ำมันหมดบริเวณใกล้กับบิ๊กซีเอกมัย ชายคนขับจึงทิ้งรถวิ่งหลบหนี แต่ถูกชาวบ้านและพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัว ก่อนพามาที่ สน.ทองหล่อ จากการสอบถามทราบชื่อคือนายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี ตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในซองน้ำหนัก 3.9 กรัม จากการสอบสวนนายเอกพจน์ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ภรรยาของตนทิ้งไปมีสามีใหม่ จึงเกิดความเครียดและกลุ้มใจ จึงไปซื้อยาไอซ์มาเสพต่อเนื่องกัน 3 วันแล้ว กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกวัสดุก่อสร้างไปส่งลูกค้าที่ย่านสะพานควาย หลังจากส่งของเสร็จจึงขับรถกลับ แต่ระหว่างนั้นตนขับรถย้อนศรและวิ่งบนบัสเลน จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้หยุด แต่ตนนึกขึ้นได้ว่าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงเร่งเครื่องหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่านายเอกพจน์ เคยถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดถึง 4 ครั้ง เมื่อปี 2555, 2556, 2557 และ 2559 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะนายเอกพจน์ พบว่ามีสีม่วง จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป