เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมนายสถาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี พ่อของนายอิท (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งถูกที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการนำน้ำมันทอดราดตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณใกล้เคียงร้านสะดวกซื้อย่านเคหะร่มเกล้า กทม.หลังแจ้งความไว้ที่ สน.ร่มเกล้า แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ร่มเกล้า เพื่อขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

 

201609201423193-20140724141910
นายสถาพร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขี่รถจยย.ไปซื้อลูกชิ้นที่ร้านค้าแถวย่านเคหะร่มเกล้า เมื่อไปถึงร้านได้ขับผ่านกลุ่มชาย 3 คน ซึ่งกำลังตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ และได้เตือนลูกชายตนว่าขี่จยย.เสียงดัง จากนั้นลูกชายก็ได้เข้าไปขอโทษแล้ว และเดินกลับมารอลูกชิ้น แต่กลุ่มคนดังกล่าวกลับเดินตามมา และนำน้ำมันทอดลูกชิ้นมาราดตัวลูกชาย จนต้องวิ่งหนีเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ รวมถึงยังตามมาและพังประตูกระจก เข้ามาทำร้ายลูกชายต่อ แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน และนำตัวส่งโรงพยาบาล

 

201609201423208-20140724141910
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้เร่งรัดเพื่อทำความจริงให้ปรากฎและจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะดูตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ จึงเชิญคู่กรณีคือนายวิรัตน์ หรือเอ๋ ศรีภูมิ อายุ 38 ปี และนายออน ผลแก้ว อายุ 57 ปี พ่อค้าขายไก่ทอดที่นั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกันบริเวณจุดเกิดเหตุมาสอบถามหาความจริงให้กระจ่างชัด ส่วนนายวรเกียรติ หรือเบิ้ม ศรีวงษ์ อายุ 35 ปี คนที่เอาน้ำมันทอดลูกชิ้นราดตัวลูกชายนายสถาพรนั้น หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

ด้านนายวิรัตน์ ให้การโดยอ้างว่า ปกติพวกตนก็นั่งดื่มสุราอยู่บริเวณร้านสะดวกซื้ออยู่เป็นประจำอยู่แล้ว และไม่เคยมีเรื่องกับใคร วันเกิดเหตุมีวัยรุ่นขี่รถจยย.เสียงดัง ตนจึงเข้าไปตักเตือน ต่อมากลุ่มวัยรุ่นประมาณ 2-3 คน ก็ได้ย้อนกลับมาพร้อมชักปืนออกมาแล้วยิงใส่พวกตนแต่โชคดีที่ไม่โดนใคร จนเป็นชนวนให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันขึ้น ตนโดนลูกชายของนายสถาพรใช้ไม้กวาดตี จากนั้นจึงได้แย่งไม้กวาดมา และมีการชุลมุนกันเกิดขึ้น ระหว่างที่ตนกำลังล็อกตัวลูกชายนายสถาพรอยู่ นายวรเกียรติ ก็นำน้ำมันราดใส่ลูกชายนายสถาพรทำให้ตนก็โดนน้ำมันราดไปด้วย ก็ได้พยายามติดต่อให้นายวรเกียรติ เข้ามามอบตัวแต่ทราบว่าได้หลบหนีไปแล้ว

สำหรับนายอิท ยังคงพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ทางนายอัจฉริยะ จึงได้โทรศัพท์ให้ทางฝั่งผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ผ่านลำโพงโทรศัพท์ต่อหน้าสื่อมวลชน โดยนายอิท เล่าว่า ตนขอยอมรับว่าขี่รถจยย.เสียงดังจริง ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแล้ว จากนั้นก็ได้รอเพื่อนมารับเพื่อที่จะนำรถไปเปลี่ยน เนื่องจากรถมีปัญหา ระหว่างรอจึงซื้อลูกชิ้นกิน จากนั้นกลุ่มดังกล่าวก็ได้เดินเข้ามาหาตน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับมีวัยรุ่นอีก 2 คน ได้มาที่บริเวณนั้นแล้วชักปืนออกมายิงลงพื้นไปทางกลุ่มที่เดินมา ก่อนหลบหนีไป ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับวัยรุ่น 2 คนนี้ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้ตรงมาทำร้ายตน พร้อมทั้งใช้น้ำมันราดตัว ตนจึงต้องวิ่งหนีขอความช่วยเหลือหลบเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ

พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หลังทราบเรื่องก็ได้เร่งรัดจนมีการออกหมายจับนายวรเกียรติในข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าจะเป็นการพยายามฆ่า เนื่องจากแพทย์บอกว่าหากมารับการรักษาช้าอาจทำให้เสียชีวิตได้ ก็จะต้องไปขอผลการตรวจของแพทย์ มาประกอบหากพบว่าเข้าข่ายจริงก็สามารถขอเพิ่มข้อหาเป็นพยายามฆ่าได้ และยังสงสัยอีกว่าทำไมถึงมีการออกหมายจับเพียงคนเดียวเรื่องนี้จะมีคนอื่นร่วมด้วยหรือไม่ก็ต้องสอบสวนต่อ เพราะขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังให้การไม่เหมือนกัน ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งเชื่อว่าในวันเกิดเหตุมีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเสร็จสิ้นไปแล้ว 4-5 ปาก อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนผู้ก่อเหตุยืนยันว่าจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน