เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 ม.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.สมนึก น้อยคง รรท.ผบก.น.3 พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.หนองจอก พ.ต.ท.เด่นโดม ลาภานันต์ รอง ผกก.ป.สน.หนองจอก พ.ต.ท.คำแหง กัณฑวงศ์ รองผกก.สส.สน.หนองจอก พ.ต.ท.พิทยา สิงห์จานุสงค์ สว.สส.สน.หนองจอก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.หนองจอก ร่วมกันควบคุมตัวนายนิธิกร หรือหมู จงศิริ อายุ 26 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีกราดยิงถล่มคู่อริตาย 1 เต็บ 6 ราย โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักคนงานภายในบริษัทฟาร์มดี การพาณิชย์จำกัด ที่อยู่ 9 หมู่ 10 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจสน.หนองจอกรับแจ้งกลุ่มคนร้ายก่อเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืนกราดยิงจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดภายในร้านอาหารคอฟฟีลอง ตั้งอยู่หน้าตลาดเอกวิน จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน

จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์จนทราบข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 31 ธ.ค. 59 กลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามาใช้บริการรวม 8 คน ซึ่งมานั่งโต๊ะข้างๆกลุ่มผู้เสียหายที่เข้ามาใช้บริการก่อนแล้วรวม 20 คน ต่อมาฝ่ายชายกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าไปเต้นกับฝ่ายหญิงของกลุ่มผู้ก่อเหตุจนเป็นเหตุให้กลุ่มคนร้ายไม่พอใจจึงตัดสินใจชักอาวุธปืนมากราดยิงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ลงมือก่อเหตุมีเพียงแค่ 2 ราย ก่อนติดตามจับกุมตัวนายสุทธิรักษ์ หรือสุทธิ หรือทิด ศรีอ่อน อายุ 27 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืน 2 กระบอก ได้ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ของวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่วนอีกรายคือนายนิธิกรได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวจนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายนิธิกรได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ภายในบริษัทฟาร์มดี การพาณิชย์จำกัด ที่อยู่ 9 หมู่ที่ 10 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังรุดเข้าตรวจสอบก่อนพบตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งขยายผลพบมีดของกลางซึ่งใช้ในการลงมือก่อเหตุคู่กรณีจนถึงแก่ความตาย

นายนิธิกรสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกลุ่มเพื่อนได้เดินทางมาที่สถานบันเทิงดังกล่าวรวม 8 คน เพื่อมากินเลี้ยงสังสรรค์ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งนั่งอยู่ใกล้กับโต๊ะของคู่กรณีจากนั้นขณะที่นั่งดื่มกินได้สักพักได้เกิดกระทบกระทั่งกันแต่ก็สามารถตกลงกันได้ เมื่อผ่านไปได้สักพักตนได้ยินเสียงขวดแตกจากโต๊ะของกลุ่มคู่กรณี ซึ่งคาดว่าจะมาทำร้ายกลุ่มตนจึงตัดสินใจชักอาวุธปืนที่เตรียมมาถึง 2 กระบอกกราดยิงโดยเริ่มจากใช้อาวุธปืน .32 ยิงไปที่กลางโต๊ะ รวม 3 นัด เมื่อกลุ่มคู่กรณีวิ่งหนีตนใช้อาวุธปืน ขนาด.9 มม. มากระหน่ำยิงอีก 10 กว่านัด

ก่อนเห็นผู้เสียชีวิตวิ่งหนีทะลุไปทางหลังร้านด้วยอาการบาดเจ็บ ตนจึงเดินลัดข้างซอยที่อยู่ใกล้กันเพื่อไปดักรอเมื่อมาถึงด้านท้ายร้านพบคู่กรณีฝ่ายชายนั่งอยู่ที่พื้นซึ่งมีฝ่ายหญิงนั่งประคองอยู่ด้วยกันตนจึงตัดสินใจเดินปรี่เข้าไปใช้อาวุธมีดพกที่เตรียมมาจ้วงแทงจากด้านหลังไปอีก 3 ครั้ง หลังจากนั้นตนก็วิ่งหนีขึ้นมาแอบนอนอยู่ด้านท้ายรถกระบะของนายสุทธิรักษ์ ที่จอดรออยู่ด้านร้านดังกล่าวก่อนพากันหลบหนีจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว

“ตนรู้สึกผิดที่ก่อเหตุลงไปด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบจึงกราบขอขมามารดาแม่ผู้เสียชีวิต และไม่อยากให้เหตุการณ์การสูญเสียเช่นนี้เกิดขึ้นกับผู้ใดอีก” นายนิธิกรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน