จากกรณีที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาน.ส.น้อย(นามสมมุติ) อายุ 39 ปี เข้าพบพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และพ.ต.อ.พิทักษ์ ปัญญาพร ผกก.สน.บุปผาราม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีด.ญ.ขนม (นามสมมุติ) อายุ 5 เดือนหลานสาว ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสต้องผ่าตัดสมอง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนบ้านเป็นพยานรู้เห็นว่าหลานสาวน่าจะถูกน.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสะใภ้และเป็นแม่แท้ๆของเด็กทำร้ายร่างกาย ต่อมาเด็กน้อยได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่รพ.ศิริราช (อ่านข่าว – สลด! ทารก5เดือนสิ้นใจแล้ว พ่อร่ำไห้กอดศพ ไม่มีเงินซื้อโลง แฉเมียวัย 17 เคยพยายามทำแท้ง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ม.ค. ที่วัดอนงคารามวรวิหาร เขตคลองสาน นางปวีณา หงสกุล พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพ “น้องขนม” ขณะที่มารดาของเด็กวัย 17 ปี ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานด้วย อ้างว่าไม่กล้ามาเพราะกลัวจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ในงานยังมีการมอบเงินช่วยเหลือให้พ่อของเด็กจำนวนหนึ่ง

นายบี (นามสมมุติ) บิดาของเด็ก เปิดเผยว่า ถึงตอนนี้เชื่อว่าลูกสาวถูกแม่แท้ๆทำให้เสียชีวิต เพราะเห็นความรุนแรงหลายครั้งที้ทำกับลูก โดยเฉพาะเวลาโกรธ ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามห้ามปรามตลอด หลังลูกเสียชีวิต ยังไม่ได้ติดต่อหรือพบหน้าภรรยาเลย สำหรับบรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีชาวบ้านที่รู้จักคุ้นเคยมาร่วมงานประมาณร้อยกว่าคน

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่ากรณีนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ส่วน คือความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งเบื้องต้นชัดเจนว่าแม่ของเด็กมีความผิดในส่วนของการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นแม่ มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกถึง 3 เดือน ส่วนเรื่องสาเหตุการตายอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยนัดสอบปากคำแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ศพในวันนี้ เพื่อนำหลักฐานการชันสูตรมาประกอบสำนวน

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์กล่าวว่า จากนั้นพนักงานสอบสวนจะนัดสอบปากคำแม่ของเด็กพร้อมกับสหวิชาชีพอีกครั้ง เชื่อว่าไม่เกินสัปดาห์หน้า จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องฐานความผิดใดบ้าง โดยความเป็นไปได้ มีทั้งข้อหา กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฆ่าคนตายโดยเจตนา หรืออาจเป็นข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ทั้งนี้คงต้องดูที่เจตนาของผู้ที่ก่อเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน