จยย. ขี่บนฟุตปาธ รับฉุน ลุงขวางไม่หลบ รีบไปโบ๊เบ๊ขายเสื้อ วนกลับมาชน อ้างแค่เฉี่ยว
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ รถจยย.ขี่บนฟุตปาธ แล้วไม่พอใจที่ถูกคนที่ยืนอยู่บนทางเท้าต่อว่า จึงวนรถกลับมาชน ชายคนที่ต่อว่าอย่างจัง จนหงายหลังล้มลงกับพื้น โดยผู้โพสต์ยังได้ระบุข้อความ พอบอกว่าขี่บนทางเท้าไม่ได้นะครับ ขี่ย้อนกลับมาชนเลย ครับ
ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดบริเวณป้ายรถประจำทาง หน้าสำนักงานสถิติแห่งชาติ ถนนหลานหลวง แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาท้องที่สน.นางเลิ้ง ซึ่งต่อมาตำรวจ สน.นางเลิ้ง ได้ติดต่อ นาย ศศะวสุ ช่ำชองยนต์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นชายที่อยู่ในคลิป มาไกล่เกลี่ย กับคู่กรณีที่ ขี่จยย.บนฟุตปาธ พร้อมเสนอว่า ฝ่ายคู่กรณี จะชดใช้เงินให้ 5,000 บาท ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
- อ่าน : จยย.ไร้สำนึก ฉุน! โดนว่า ‘ขี่บนฟุตปาธ’ ย้อนรถกลับมาชนจนหงาย ล้มทั้งยืน จยย.หนี
- อ่าน : จยย. นักเลง ขี่บนฟุตปาธ ขอเคลียร์ลุง 5พัน หลังฉุน โดนต่อว่า ย้อนกลับมาชนจนหงาย
ความคืบล่าสุด วันที่ 15 ก.พ. พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ รองผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา นายจิรายุ เกื้อกูล อายุ 39 ปี คนขี่รถจยย.บนฟุตปาธ ไม่พอใจที่ถูกเตือน ได้วนรถจยย.กลับมาชน พร้อมด้วย นายศศะวสุ ช่ำชองยนต์ อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย ได้มาพบเจ้าหน้าที่เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยในส่วนของคดีทางแพ่ง ต่อหน้าพนักงานสอบสวนโดยไม่ได้มี ตำรวจยศ นายพล มานั่งอยู่ด้วยตามที่เป็นกระแสข่าวลือแต่อย่างใด โดยนายจิรายุ เกื้อกูล ได้จ่ายค่าทำขวัญ 5,000 บาท ให้กับผู้เสียหาย ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.ท.ไพรัช กล่าวต่อว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ พนักงานสอบสวนได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.กลางเพื่อดูว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นจากเหตการณ์นี้รุนแรงเพียงใด เพราะเจ้าหน้าที่จะได้นำมาประกอบสำนวนคดีในการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร ขับรถบนทางเท้าโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นนั้น ต้องรอผลแพทย์ ถ้าผลตรวจพบว่าบาดแผลจากการถูกชนไม่สาหัส ก็จะแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ก่อนนำนายจิรายุตัวส่งศาลแขวงดุสิต
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
แต่ถ้าบาดแผลรุนแรงต้องทำการรักษาเกิน 20 วัน จะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำตัวส่งศาลอาญาดำเนินคดี ซึ่งหากได้ผลแพทย์ สำนวนคดีก็จะเสร็จสิ้น และจะทำการนัดหมายผู้ต้องหามาพบเพื่อนำตัวส่งศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น นายจิรายุ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ขี่รถชนนั้น เพราะโมโห เนื่องจากรีบไปขายเสื้อผ้าที่ตลาดโบ๊เบ๊ โดยก่อนเกิดเหตุไปทำธุระที่ธนาคารใกล้จุดเกิดเหตุเมื่อขี่รถออกมา จึงตัดสินใจขึ้นทางเท้าเพื่อย้อนกลับไปยังตลาด เมื่อขี่มาเจอผู้เสียหายยืนบนทางเท้าขวางไม่ยอมหลบให้ จึงโกรธเมื่อขี่รถแซงไปได้4-5เมตรก็วกรถกลับมา และขี่ชนแบบเฉี่ยว ๆ ก่อนจะขี่รถหนีไป หลังเกิดเหตุทางผู้ต้องหาก็ยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา
